สนช.มีมติเอกฉันท์ 169 เสียง ต่อ 0 ผ่านร่างกม.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง วาระ 3 บังคับใช้ปี 63 “วิสุทธิ์” ชี้ลดช่องโหว่กฎหมายเดิม
เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ… ในวาระที่ 3 ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 169 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง และงดออกเสียง 2 เสีย ทั้งนี้ สนช.จะส่งร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ไปให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปโครงสร้างภาษี อุดช่องว่างช่องโหว่ของกฎหมายเดิม กระตุ้นการใช้ประโยชน์ที่ดิน และเป็นประโยชน์แก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดเก็บรายได้
ทั้งนี้ หลังจากประกาศใช้พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฯประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะให้มีผลบังใช้ 1 ม.ค.2563 และการจัดเก็บภาษีจริงจะเกิดขึ้น 1 ปีหลังจากนั้น หรือเริ่มเก็บภาษีจริงปี 2564 ซึ่งตามบทเฉพาะกาลให้ยกเว้นการเก็บภาษีแก่เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เป็นบุคคลธรรมดา และใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรกรรมในช่วง 3 ปีแรก
สำหรับร่างพ.ร.บ.ภาษีที่และสิ่งปลูกสร้าง กำหนดให้จัดเก็บภาษีที่ดิน 4 ประเภท ได้แก่ ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย ที่ดินเพื่อการพาณิชย์ฯ และที่ดินรกร้างว่างเปล่า ซึ่งไม่ได้ใช้ประโยชน์
มีรายละเอียด คือ 1.ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กำหนดจัดเก็บภาษีสูงสุดไม่เกิน 0.15% โดยอัตราจัดเก็บภาษี 2 ปีแรก คือ มูลค่าไม่เกิน 75 ล้านบาท เก็บภาษี 0.01% ,มูลค่า 75 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 100 ล้านบาท เก็บภาษี 0.03% ,มูลค่าเกิน 100 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 500 ล้านบาท เก็บภาษี 0.05% ,มูลค่าเกิน 500 แต่ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เก็บภาษี 0.07% และมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาทขึ้นไป เก็บภาษี 0.1%
อย่างไรก็ตาม กฎหมายกำหนดยกเว้นมูลค่าของฐานภาษีที่นำมาคำนวณภาษีไม่เกิน 50 ล้านบาท หรือมูลค่า 50 ล้านบาทแรกจะไม่เสียภาษี
2.ที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย กำหนดจัดเก็บภาษีสูงสุดไม่เกิน 0.3% แบ่งเป็น 2 กรณี ประกอบด้วย กรณีสิ่งปลูกสร้างและที่ดิน อัตราจัดเก็บ 2 ปีแรก คือ มูลค่าไม่เกิน 25 ล้านบาท เก็บภาษี 0.03% ,มูลค่าเกิน 25 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 50 ล้านบาท เก็บภาษี 0.05% ,มูลค่าเกิน 50 ล้านบาทขึ้นไป 0.1% โดยให้ยกเว้นมูลค่าของฐานภาษีที่นำมาคำนวณภาษีไม่เกิน 50 ล้านบาท หรือมูลค่า 50 ล้านบาทแรกไม่เสียภาษี
ส่วนกรณีสิ่งปลูกสร้างอย่างเดียว หรือที่อยู่อาศัยที่ไม่ได้บนที่ดินของตัวเอง อัตราจัดเก็บ 2 ปีแรก คือ มูลค่าไม่เกิน 40 ล้านบาท เก็บภาษี 0.02% ,มูลค่าเกิน 40 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 65 ล้านบาท เก็บภาษี 0.03% ,มูลค่าเกิน 65 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 90 ล้านบาท เก็บภาษี 0.05% และมูลค่าเกิน 90 ล้านบาทขึ้นไป เก็บภาษี 0.1% โดยให้ยกเว้นมูลค่าของฐานภาษีที่นำมาคำนวณภาษีไม่เกิน 10 ล้านบาท
3.ที่ดินเพื่อการพาณิชย์ฯ กำหนดจัดเก็บภาษีสูงสุดไม่เกิน 1.2% โดยอัตราจัดเก็บ 2 ปีแรก คือ มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท เก็บภาษี 0.02% ,มูลค่าเกิน 50 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 75 ล้านบาท เก็บภาษี0.03% ,มูลค่าเกิน 75 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 100 ล้านบาท เก็บภาษี 0.05% และมูลค่าเกิน 100 ล้านบาทขึ้นไปเก็บภาษี 0.1%
และ4.ที่ดินรกร้างว่างเปล่า กำหนดจัดเก็บภาษีสูงสุดไม่เกิน 1.2% โดยอัตราจัดเก็บ 2 ปีแรก คือ มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท เก็บภาษี 0.3% ,มูลค่าเกิน 50 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 200 ล้านบาท เก็บภาษี 0.4% ,มูลค่าเกิน 200 แต่ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เก็บภาษี 0.5% ,มูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 5,000 ล้านบาท เก็บภาษี 0.6% และมูลค่าเกิน 5,000 ล้านบาทขึ้นไป เก็บภาษี 0.7%
ทั้งนี้ หากที่ดินที่รกรากว่างเปล่านั้น ไม่ทำประโยชน์จะเก็บภาษีเพิ่ม 0.3% ทุกๆ 3 ปี และอัตราภาษีสูงสุดไม่เกิน 3%