“สมคิด” รับการเมืองไม่นิ่ง กระทบความเชื่อมั่น ชี้รัฐบาลมีเวลาทำงาน 2-3 เดือน จนกว่าจะได้รัฐบาลใหม่ ขอข้าราขการอย่าเกียร์ว่าง กำชับดูแลเรื่องปากท้องชาวบ้าน
เมื่อวันที่ 4 เม.ย. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังประชุมติดตามงานร่วมกับผู้บริหารของกระทรวงพาณิชย์ ว่า รัฐบาลชุดนี้ยังต้องทำงานต่อไปอีก 2-3 เดือน จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ ดังนั้น ขอให้ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์งานอย่างเต็มที่ ต้องโหมงานให้มากขึ้น และต้องไม่เกียร์ว่าง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่ายังมีการดูแลเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการดูแลเรื่องปากท้องของชาวบ้าน
“ในเรื่องปากท้องของชาวบ้าน ได้ฝากให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์และกรมการค้าภายใน ให้ติดตามดูแลสถานการณ์ในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด ราคาสินค้าทั่วไปจะต้องไม่ให้มีการปรับขึ้นราคาเด็ดขาด ส่วนสินค้าเกษตรต้องรักษาระดับราคาไว้”นายสมคิดกล่าว
นายสมคิด กล่าวว่า ส่วนการส่งออกที่ยังมีทิศทางที่ไม่ดีขึ้นนั้น ขอให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไปดูว่ามีแหล่งท่องเที่ยวในโลกใดบ้าง ที่ไทยจะไปเปิดร้านและนำสินค้าไทยเข้าไปจำหน่ายได้ อย่างเช่นบางเมืองของญี่ปุ่น เช่น เมืองนารา มีร้านขายสินค้าทั้งจีน อินเดีย ฝรั่ง แต่ไม่มีร้านไทย ก็ต้องหาทางไปปักธงให้ได้ ขณะที่เป้าหมายการส่งออกปีนี้ที่ ตั้งเป้า 8% ก็ต้องพยายามทำให้ได้ หากทำไม่ได้ ต้องไปกระตุ้นและผลักดันภาคบริการมาทดแทน
นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สร้างร้านค้าชุมชนเพื่อกระจายสินค้าไปสู่มือนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่มีกว่า 40 ล้านคน ซึ่งนอกจากสินค้าที่ขายจะต้องปรับรูปแบบให้ทันสมัยแล้ว ต้องให้ซื้อขายทางออนไลน์ได้ด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งแทบจะไม่มีการใช้เงินสดแล้ว
ส่วนกรณีที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน นายสมคิด กล่าวว่า เป็นผลจากสถานการณ์การเมืองที่ไม่นิ่งและไม่ชัดเจน ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เพราะทำให้คนไม่มีอารมณ์ที่จะบริโภค เช่นเดียวกับนักลงทุนที่รอความชัดเจนของรัฐบาล หากการเมืองมีความชัดเจน ก็จะเริ่มลงทุน ทั้งนี้ ทุกคนต้องช่วยกันประคับประคองไปให้ได้ และต้องโหมงาน ยิ่งกระทรวงพาณิชย์จะเกียร์ว่างไม่ได้ เพราะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการค้าการขาย