องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ห่วงเร่งรัดประมูล “ร้านค้าปลอดภาษี” เอื้อทุนใหญ่ผูกขาด ทำให้รัฐสูญรายได้กว่าแสนล้านบาท
เมื่อวันที่ 14 มี.ค. นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงการประมูลร้านค้าปลอดภาษีอากร (Duty Free Shop) ครั้งใหม่ในสนามบิน 4 แห่ง และสิทธิ์เปิดจุดส่งมอบสินค้าปลอดอากร (Pick-Up Counter) มูลค่าหลายแสนล้านบาท ว่า องค์กรฯจะเฝ้าติดตามโครงการเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกรงว่าอาจถูกสอดแทรก เร่งอนุมัติหรือปรับแก้เงื่อนไขเอื้อประโยชน์ให้กับทุนใหญ่ ก่อนมีรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง
นายมานะ ยังระบุว่า ข้อมูลจาก Generation research พบว่า ปี 2559 ไทยมีนักท่องเที่ยวสูงถึง 32.6 ล้านคน แต่ไทยกลับมีรายได้จากการขายสินค้าปลอดภาษีอากรเพียง 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 6.1 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ในขณะที่เกาหลีใต้ที่มีจำนวนผู้มาเยือนเพียง 16.9 ล้านคน แต่ยอดขายสินค้าปลอดภาษีและธุรกิจค้าปลีกในสนามบินสูงกว่าประเทศไทยถึง 5.7 เท่า โดยเป็นจำนวนเงินถึง 10.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 3.49 แสนล้านบาท
“เมื่อพิจารณาข้อมูลต่างๆแล้ว พบว่าประเทศชาติได้ผลตอบแทนจากอุตสาหกรรมนี้ต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับประเทศอื่น เช่น เกาหลี สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และกว่าสิบปีที่ผ่านมา มีข่าวไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับร้านค้าปลอดภาษีอากรมากมาย ทั้งที่เป็นคดีความและเรื่องที่ถูกตรวจสอบโดยรัฐสภา สภาปฏิรูป สภาขับเคลื่อนการปฏิรูป เช่น การจ่ายผลตอบแทนไม่เป็นไปตามสัญญา เจ้าหน้ารัฐด้อยประสิทธิภาพ ผู้ประกอบการไม่โปร่งใส เป็นต้น”นายมานะกล่าว
นายมานะ กล่าวว่า กว่าสิบปีที่ผ่านมาประเทศไทยเสียโอกาสหารายได้และการสร้างชื่อเสียงด้านนี้ไปมากเมื่อเทียบกับหลายประเทศ ดังนั้น หากวันนี้เอกชนไม่สามารถผูกขาดธุรกิจได้อีกต่อไป จะเกิดการพัฒนาธุรกิจเพื่อการแข่งขัน ยอดขายโดยรวมของไทยสามารถเพิ่มจากปีละ 6 หมื่นล้านบาท เป็น 3 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งจะทำให้รายได้ของรัฐเพิ่มจาก 9,000 ล้านบาท เป็นกว่าแสนล้านบาทต่อปีได้
“การประมูลครั้งใหม่ที่จะมีขึ้น จึงจำเป็นต้องมีมาตรการที่ชัดเจนเพื่อความโปร่งใส เปิดกว้างและเป็นธรรม เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย เราจึงทำหนังสือถึงนายกฯอีกครั้ง เสนอให้ใช้ข้อตกลงคุณธรรมกับการประมูลนี้ ให้ประชาชนเข้าร่วมตรวจสอบตั้งแต่ต้น เพื่อความโปร่งใส และหวังว่าท่านนายกฯจะเข้ามาดูแลเรื่องนี้”ดร.มานะกล่าว