ความคืบหน้าการทลายเครือข่ายอาณาจักรเมจิกสกิน ล่าสุด รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมเรียกดาราที่เคยเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาเมจิกสกิน มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีก6คน ขณะเดียวกัน เตรียมดำเนินการยึดทรัพย์ของกลุมผู้ต้องหา โดยเฉพาะรถหรูกว่า30คัน ที่ยังอยู่ในความครอบครองของกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งตอนนี้ กลุ่มผู้ต้องหาได้มีการยักย้ายถ่ายเทรถไปให้กับคนอื่นบ้างแล้ว
พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับบริษัทในเครือ เมจิก สกิน จำกัด ที่ผลิตอาหารเสริมไม่ได้มาตรฐาน โดยวันนี้ จะเป็นการแถลงความคืบหน้าติดตามยึดทรัพย์ โดยเฉพาะรถหรู จำนวน 30 คัน พร้อมกันนี้ได้เปิดคลิปเสียงการสนทนาของนางวรรณภา พวงสน หนึ่งในผู้ต้องหา กับพวก โดยในคลิประบุว่ามีการยักย้ายถ่ายเทรถหรู และทรัพย์สินอื่นๆเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกยึดทรัพย์
พลตำรวจเอกวิระชัย กล่าวว่า นางวรรณภา ครอบครองรถหรู จำนวน 15 คัน รวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท มีทั้ง ปอร์เช่ จากัวร์ ออดี้ บีเอ็มดับเบิ้ลยู ส่วนนายกร พวงสน สามี หนึ่งในผู้ต้องหา มี15 คัน ได้แก่ แลมโบกินี่ รวมไปถึงรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ เช่น ดูคาติ ฮาร์เลย์ เดวิดสัน มูลค่า 28 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นกว่า 68 ล้านบาท
จากนี้ จะขอเตือนไปยังบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการถ่ายเท ซื้อขาย อาจจะเข้าข่ายมีความผิด โดยจะประสานไปยังกรมขนส่ง หากพบการซื้อขาย โอน รถหรูดังกล่าว ให้แจ้งมายังพนักงานสอบสวนได้ทันที
นอกจากเตรียมยึดรถหรูแล้ว ยังมีการเปิดเผยรายชื่อดารานักแสดงที่ต้องเรียกสอบปากคำเพิ่มอีก6ราย หลังตรวจสอบพบว่า ไปเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาให้กับเมจิกสกิน คือ นายนิศามณี เลิศวรพงศ์ หรือ นัท ผู้ประกวดมิสทิฟฟานี่ 2012, นางสาวเอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา, นางสาวศรีริต้า เจนเซ่น, นางสาวคะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ หรือรถเมล์, นางสาวชีรณัฐ ยูสานนท์ หรือน้ำชา, นายภูภูมิ พงศ์ภาณุ หรือ เคน
โดยทั้งหมดจะต้องมารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยนายนิศามณี, นางสาวเอสเธอร์ และนางสาวศรีริต้า จะมาในช่วงสายของวันที่26พฤษภาคม ส่วนนางสาวคะนึงนิจ, นางสาวชีรณัฐ และนายภูภูมิ จะเดินทางมาในช่วงบ่าย
สำหรับประเด็นที่พันตำรวจโทสันธนะ ประยูรรัตน์ ประธานที่ปรึกษาบริษัทตลาดใหม่ดอนเมือง จะแจ้งความดำเนินคดีกับ 3 นายพลตำรวจ โดยหนึ่ง ในนั้นมีพลตำรวจเอกวิระชัย รวมอยู่ด้วย พลตำรวจเอกวิระชัย ก็ชี้แจงว่าตนเองไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร และไม่ได้กลัวถูกฟ้องร้องดำเนินคดี การดำเนินคดีกับพันตำรวจโทสันธนะ ไม่ได้เป็นการเอาคืน จากกรณีที่พันตำรวจโทสันธนะเคยฟ้องร้องตนเองในอดีต ส่วนการบุกค้นตลาดใหม่ดอนเมือง ยืนยันว่าไม่รู้มาก่อนว่าตลาดนี้เป็นของใคร ทราบเพียงว่าตลาดแห่งนี้มีสินค้าผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยเรื่องการถอดยศพันตำรวจโทสันทนะและตำรวจคนใดมาก่อน