สตช. เตรียมตั้งคณะทำงานยกร่างข้อบังคับ “ตัดแต้ม” ใบขับขี่ รองรับพ.ร.บ.จราจรทางบกฉบับใหม่ แบ่งความผิดเป็น 3 ระดับ ตัดคะแนนครั้งละ 1-3 แต้ม หากโดนพักใบขับขี่ 3 ครั้งภายใน 3 ปี จะถูกพักใบขับขี่นาน 1 ปี
เมื่อวันที่ 26 ก.พ. พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในฐานะคณะทำงานแก้ปัญหาจราจร เปิดเผยถึงการยกร่างข้อบังคับเกี่ยวกับการตัดแต้มใบขับขี่ เพื่อรองรับร่างพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่…) พ.ศ…. ว่า เตรียมจะเสนอเรื่องไปยังพล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งดูแลงานด้านการจราจร ให้ตั้งคณะทำงานยกร่างอนุบัญญัติ 8 ฉบับ รองรับการประกาศใช้ร่างพ.ร.บ.จราจรฉบับใหม่
สำหรับอนุบัญญัติหรือกฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการตัดแต้มใบขับขี่นั้น เบื้องต้นกำหนดให้ผู้ขับขี่แต่ละคนมี 12 คะแนน หากทำผิดกฎหมายจราจร ซึ่งนอกจากจะต้องรับโทษตามกฎหมายแล้ว จะถูกตัดแต้มตามระดับความผิด โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับที่ 1 เป็นความผิดที่มีผลกระทบต่อตัวผู้ขับขี่เองและมีผลกระทบต่อสาธารณะเล็กน้อย ตัด 1 คะแนน เช่น ไม่สวมหมวกกันน็อก ไม่คาดเข็มขัด ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ และขับรถเร็ว เป็นต้น
ระดับที่ 2 เป็นความผิดที่มีผลกระทบต่อสาธารณะระดับปานกลาง ตัด 2 คะแนน เช่น ผ่าไฟแดง และขับรถย้อนศร เป็นต้น และระดับที่ 3 เป็นความผิดที่มีผลกระทบต่อสาธารณะระดับรุนแรง ตัด 3 คะแนน เช่น เมาแล้วขับ เสพยาเสพติด และกรณีชนแล้วหนี เป็นต้น
ทั้งนี้ หากผู้ขับขี่โดนตัดคะแนนไป 8 คะแนนจากทั้งหมด 12 คะแนน สามารถเข้ารับการอบรมที่กรมการขนส่งทางบกหรือที่โรงเรียนสอนขับรถ โดยจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการอบรมเอง หากสอบผ่านก็จะได้คะแนนคืน แต่หากผู้ขับขี่ไม่เข้าอบรม และมีการกระทำความผิดอีกจนถูกตัดคะแนนเหลือ 0 คะแนน จะถูกพักใบขับขี่เป็นเวลา 90 วัน และหากต้องการได้คะแนนคืน ก็ต้องเข้ารับการอบรมและสอบให้ผ่าน
อย่างไรก็ตาม หากภายใน 3 ปี ผู้ขับขี่รายใดที่ถูกพักใบขับขี่มาแล้ว 2 ครั้ง และถูกพักใบขับขี่อีกเป็นครั้งที่ 3 จะต้องถูกพักใบขับขี่เป็นเวลา 1 ปี จากนั้นจะอยู่ในระยะควบคุมความประพฤติเป็นเวลา 1 ปี และหากในระยะควบคุมความประพฤตินั้น ผู้ขับขี่ถูกพักใบอนุญาตเป็นครั้งที่ 4 ก็จะถูกเพิกถอนใบขับขี่
พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าวว่า สตช. จะประชุมหารือกันเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง ก่อนจะนำร่างข้อบังคับต่างๆไปรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจะหารือกับกรมการขนส่งทางบกในเรื่องการกำหนดเนื้อหาการอบรมเพื่อคืนแต้ม เช่น เรื่องการขับรถ ความปลอดภัย และวินัยจราจร เป็นต้น ขณะที่การดำเนินการต่างๆจะแล้วเสร็จทันภายใน 120 วัน หลังจากพ.ร.บ.จราจรทางบกฉบับใหม่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือภายในไม่เกินปีนี้แน่นอน
นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมฯได้หารือกับตำรวจบ้างแล้วเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมในเรื่องระบบตัดแต้มใบขับขี่ และระบบการคืนแต้มใบขับขี่ให้กับผู้ขับขี่ที่เข้ามาอบรม ซึ่งกรมฯได้จัดเตรียมหลักสูตรการอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ซึ่งในภาคทฤษฎีจะอบรม 3-4 ชั่วโมง เช่น กฎจราจร มารยาทการขับขี่ และการขับรถที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุหรือเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น