สนพ.แจงราคาน้ำมันดีเซลในไทยแพงกว่ามาเลเซีย 12 บาท/ลิตร เพราะรัฐเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน เดินหน้าจับกุมขบวนการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน
เมื่อวันที่ 1 พ.ค. นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่าราคาน้ำมันแพง ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายประชาชน และทำให้ประชาชนในภาคใต้ไปซื้อน้ำมันเถื่อนที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศมาเลเซีย ว่า ราคาน้ำมันของมาเลเซียถูกกว่าราคาน้ำมันของประเทศไทย เพราะมีโครงสร้างภาษีแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันประเทศไทยมีคุณภาพดีกว่า และมีหน่วยงานหลักกำกับดูแลเรื่องนี้
นายวัฒนพงษ์ กล่าวว่า ในปัจจุบันเส้นทางค้าน้ำมันเถื่อนในภาคใต้จะอยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา โดยมี 2 ช่องทางหลัก คือ ด่านสะเดา และด่านปาดังเบซาร์ ส่วนใหญ่จะลักลอบขนเข้ามาด้วยด้วยรถกระบะดัดแปลง หรือการเติมให้เต็มถังขับผ่านด่านชายแดน และขนจ่ายน้ำมันออก ซึ่งมีเหตุจูงใจมาจากเรื่องราคาเป็นหลัก โดยขณะนี้ราคาน้ำมันดีเซลในมาเลเซียมีราคาประมาณ 16.89 บาท/ลิตร และน้ำมันเบนซิน (ออกเทน 95) ราคาประมาณ 16.12 บาท/ลิตร
ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลมาเลเซียมีการชดเชยราคาน้ำมัน อีกทั้งไทยมีการเก็บภาษีสรรพสามิต สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทดีเซลที่ 5.98 บาท/ลิตร และน้ำมันเบนซินที่ 6.50 บาท/ลิตร เป็นต้น ส่งให้ราคาน้ำมันดีเซลในมาเลเซียแตกต่างกับไทยประมาณ 12 บาท/ลิตร ส่วนน้ำมันแก๊สโซฮอล์และน้ำมันเบนซินต่างกัน 5-20 บาท/ลิตร ตามชนิดของน้ำมัน แต่หากเปรียบเทียบที่คุณภาพน้ำมันแล้ว น้ำมันในประเทศไทยมีคุณภาพดีกว่าประเทศมาเลเซีย
“จากความแตกต่างของราคาน้ำมันดังกล่าว จึงเป็นเหตุจูงใจสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้กระทำผิดอย่างคุ้มค่า ภาครัฐจึงต้องดำเนินการควบคุมดูแลและสามารถดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด แก่ผู้ที่ลักลอบขนน้ำมันเถื่อน โดยมีกรมสรรพสามิตเป็นหน่วยงานหลัก ในการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้แก่ กรมศุลกากร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”นายวัฒนพงษ์กล่าว