แผงค้าตลาดนัดจตุจักรสุดอู้ฟู่ รายได้เฉลี่ยเดือนละ 1 แสนบาท

ม.หอการค้าไทย เผยผลสำรวจแผงค้าตลาดนัดจตุจักร พบเกือบ 80% เป็นการเช้งแผงต่อ ขณะที่รายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 1.01 แสนบาท/เดือน

เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ร่วมกับศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจเรื่อง “สถานภาพผู้ประกอบการตลาดนัดจตุจักร” ซึ่งหลังจากสิ้นเดือนก.พ.2562 เป็นต้นไป แผงค้า 11,505 แผง ในตลาดนัดจตุจักร จะย้ายไปอยู่ภายใต้การบริหารของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จากปัจจุบันที่อยู่ภายใต้การบริการกรุงเทพมหานคร (กทม.)

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ผลสำรวจพบว่าผู้ประกอบการในตลาดนัดจตุจักร ส่วนใหญ่อยู่ในภาคการค้า 85.15% ประเภทสินค้าที่ขายมากสุดคือ เสื้อผ้า-เครื่องนุ่งห่ม 40.97%  โดยรูปแบบการดำเนินกิจการนั้น ส่วนใหญ่ทำในนามบุคคลธรรมดา 49.94% ไม่ได้จดทะเบียน 45.21% ส่วนที่เป็นนิติบุคคล มีเพียง 2.62% และอื่นๆ ในรูปแบบกลุ่มแม่บ้านและวิสาหกิจชุมชน 2.24%

ทั้งนี้ ส่วนใหญ่หรือ 90.90% เป็นเจ้าของคนเดียว  และต่อรายมีแรงงานเฉลี่ย 3 คน  ขณะที่ส่วนใหญ่ 38.91%  ดำเนินกิจการมาประมาณ 4-6 ปี  และมีรายได้รวมเฉลี่ย 139,518.42 บาทต่อเดือน

สำหรับความเป็นเจ้าของร้านของผู้ประกอบการในตลาดนัดจตุจักรนั้น ผู้ค้าที่มีจำนวน 1 แผง มีจำนวน 67.24% และจะเช่าแผงโดยตรงกับ รฟท. โดยค่าเช่าส่วนใหญ่อยู่ที่ 5,001-10,000 บาทต่อเดือน หรือเฉลี่ย 10,638.62 บาทต่อเดือน ขณะที่ผู้ประกอบการ 79.16% ใช้วิธีเช่าช่วงต่อมา ซึ่งมีค่าเช่าส่วนใหญ่อยู่ที่ 10,001-50,000 บาท หรือเฉลี่ย 17,713.47 บาทต่อเดือน

ส่วนจำนวนวันที่ผู้ประกอบการเปิดหน้าร้านค้าขายในตลาดนัดจตุจักรนั้น 70.42% บอกว่า 2 วัน ส่วนค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3 วัน และเมื่อถามว่ามีหน้าร้านที่อื่นอีกหรือไม่ 76.47% บอกว่า ไม่มี และลักษณะของช่องทางการค้าขายนั้น 61.33% ขายผ่านหน้าร้านอย่างเดียว ส่วน 38.67% มีหน้าร้านควบคู่กับขายออนไลน์ ขณะที่รายได้จากการขายในตลาดนัดจตุจักรนั้น ส่วนใหญ่ 43.86% อยู่ที่ 10,001-50,000 บาทต่อเดือน ขณะที่ยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 101,643.03 บาทต่อเดือน

เมื่อสอบถามถึงสถานภาพทั่วไปของผู้ประกอบการตลาดนัดจตุจักร และยอดขายปัจจุบันเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการ 36.67% บอกว่า ลดลง 33.74% บอกว่าเท่าเดิม มีเพียง 29.58% ที่บอกว่า เพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มตัวอย่าง 40.12% บอกว่า จำนวนลูกค้าลดลง และ 40.15% มีสต็อกสินค้ารอการขายลดลง

อย่างไรก็ตาม ในอีก 6 เดือนข้างหน้า ส่วนใหญ่ 42.27% เชื่อว่า ยอดขายจะเพิ่มขึ้น 44.87% บอกว่า กำไรจะเพิ่มขึ้น 39.68% เชื่อว่าสภาพคล่องจะเพิ่มขึ้น 36.31% เชื่อว่า จำนวนลูกค้าจะเพิ่มขึ้น 36.31% และ 35.86% เชื่อว่า สต็อกสินค้ารอการขายจะลดลง

เมื่อถามถึงหนี้สินจากการดำเนินธุรกิจและแหล่งที่มาของหนี้สินนั้น ผู้ประกอบการค้าในตลาดนัดจตุจักร 53.32% บอกว่า ไม่มีหนี้สิน ส่วน 46.68% บอกว่ามีหนี้สิน โดย 69.84% เป็นหนี้ในระบบอย่างเดียว 17.43% เป็นหนี้นอกระบบอย่างเดียว และ 12.73% เป็นหนี้ทั้งในและนอกระบบ โดยภาระหนี้เฉลี่ย 288,013.70 บาท  อัตราผ่อนชำระ  7,375.76 บาทต่อเดือน

ส่วนความต้องการสินเชื่อนั้น ผู้ประกอบการ 32.96% ระบุว่า มีความต้องการ โดย 100% บอกว่าต้องการกู้ในระบบ โดยมีสัดส่วนกลุ่มที่เชื่อว่ากู้ได้ คือ 58.17%  วัตถุประสงค์เพื่อนำไปปรับปรุงสินค้า ซื้อสินค้าเพิ่มเติม ลงทุนเทคโนโลยี ขยายธุรกิจ และชำระหนี้เก่า ตามลำดับ ส่วนกลุ่มที่เชื่อว่า กู้ไม่ได้ 19.90% นั้น สาเหตุเพราะไม่มีหลักประกัน/หลักประกันไม่พอ โครงการไม่เป็นที่น่าสนใจ ไม่มีแผนธุรกิจที่ดี ไม่มีประวัติการเคลื่อนไหวทางการเงิน ประวัติการชำระหนี้ไม่ดี เป็นกิจการใหม่ ไม่รู้ติดต่อธนาคารอย่างไร งบการเงินไม่ดี และไม่มีบัญชีที่ชัดเจน ตามลำดับ

สำหรับสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ ได้แก่ แก้ปัญหาฟื้นฟูเศรษฐกิจ ฟื้นฟูการท่องเที่ยว แก้ปัญหาความยากจน ลดหย่อนภาษี แก้ปัญหาความสงบของบ้านเมือง ลดต้นทุนสินค้า ช่วยให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จัก และหาแหล่งเงินทุนในการต่อยอด  ส่วนข้อเสนอและสิ่งที่ต้องการได้รับ ธพว. คือ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้  ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ขั้นตอนกู้ไม่ยุ่งยาก เพิ่มวงเงินกู้  ไม่มีค่าธรรมเนียม และป้องกันข้อมูลส่วนตัวลูกค้า เป็นต้น

นายมงคล ลีลาธรรม  กรรมการผู้จัดการ ธพว. กล่าวว่า ผู้ประกอบการในตลาดนัดจตุจักร มีความสำคัญมาก เพราะทั้งหมดคือกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย และยังเป็นแหล่งค้าปลีกค้าส่งที่เชื่อมโยงไปสู่ผู้ประกอบรายจิ๋วทั่วประเทศ ธนาคารจึงเตรียมร่วมมือกับ กทม. ในฐานะผู้บริหารตลาด ยกระดับตลาดนัดจตุจักร เช่น จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ช่วยทำการประชาสัมพันธ์ เป็นต้น เพื่อให้ผู้ค้าภายในตลาดแห่งนี้สามารถค้าขายและสร้างรายได้ตลอด 7 วันของสัปดาห์

ทั้งนี้ ธพว.จะนำข้อเสนอแนะจากกลุ่มตัวอย่างในการสำรวจครั้งนี้ ไปพัฒนาบริการ ขั้นตอน รวมถึง ผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ เพื่อตอบความต้องการผู้ประกอบการในตลาดนัดจตุจักรต่อไป

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า