ศพแล้วศพเล่า!แม่ร้องกองปราบ ลูกชายพลทหารออกไปกินข้าวกับเพื่อน ถูกทหารเกณท์ด้วยกันทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ แจ้งความแต่กลับถูกตำรวจบอกเป็นคดีของทหาร ตำรวจไม่รับแจ้ง พอร้องให้ทหารช่วยกลับถูกพยายามทำให้เรื่องเงียบ แม่ตัดพ้อ ลูกชายก็เป็นคนไม่ใช่ผักปลา วอน ทหารช่วยคลี่คลายให้หายสงสัย
ครอบครัวนายบุญฤทธิ์ เอี่ยมสิริลักษณ์ หรือ “น้องเก่ง” ทหารเกณฑ์ของค่ายทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 1 พร้อม นายวรินทร์ อัฐนาค ประธานชมรมโดมเพื่อคุณธรรม ร้องกองปราบเพื่อให้ช่วยเหลือในคดี กรณีที่ “น้องเก่ง” ถูกเพื่อนทหารเกณฑ์ด้วยกัน ชวนไปสังสรรค์ที่ร้านอาหาร ป.กุ้งเผา เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่กลับเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา
นายวรินทร์ ประธานชมรมโดมเพื่อคุณธรรม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา น้องเก่ง ขอลาพักร้อนจากค่ายทหาร เพื่อมาอยู่กับแม่ที่บ้านพักย่านปิ่นเกล้า 20 วัน จนช่วงประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ มีเพื่อนทหารโทรศัพท์เรียกน้องเก่งให้ออกไปทานข้าวกับเพื่อนที่ร้านป.กุ้งเผา กระทั่งช่วงประมาณเที่ยงคืน แม่เกิดความเป็นห่วง จึงโทรศัพท์ไปหา แต่ปรากฎว่ามีผู้ชายอีกคนหนึ่งรับสาย และพูดว่า กำลังปั้มหัวใจน้องเก่งอยู่ ก่อนสายจะเงียบไป จึงรู้สึกตกใจ และโทรกลับไปย้ำอีกหลายครั้ง โดยปลายสายบอกว่า ตอนนี้น้องเก่งอยู่ โรงพยาบาลเจ้าพระยา แม่จึงรีบออกไปหาทันที เมื่อไปถึงก็เห็นว่า น้องเก่งนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงมีผ้าขาวคลุมหน้า และมีรอยแผลคล้ายปากฉลามแทงที่ลำคอซ้าย ทั้งนี้จากการสอบถามเพื่อนทหารเกณฑ์ด้วยกัน บอกว่า วันเกิดเหตุมีทหารเกณฑ์ ประมาณ 10 คน สังกัดค่ายทหารเดียวกัน หนีออกจากค่าย และชวนน้องเก่งไปกินเหล้า จากนั้นเกิดเหตุทะเลาะวิวาท โดยมีเพื่อนทหารเกณฑ์อีก 1 คน บาดเจ็บ โดนปากฉลามเสียบที่กกหู แต่ไม่เสียชีวิต
นายวรินทร์ กล่วต่อว่า คดีนี้เป็นคดีก้ำกึ่งระหว่างศาลรัฐธรรมนูญและศาลทหาร จึงตั้งข้อสังเกตว่า คดีนี้เป็นคดีฆ่าโดยไตร่ตรอง เป็นคดีอุจฉกรรจ์ ทางกองทัพพยายามปกปิดคนทำผิดหรือไม่ ขณะที่ทหารรัฐธรรมนูญ ก็ไม่เรียกทหารเกณฑ์มาให้ปากคำกับตำรวจ และไม่ขยายผลหาคนผิด รวมถึงไม่หาพยานหลักฐานใดๆ จึงอยากให้กองปราบช่วยสืบสวนคดี
กดดูคลิป แม่กล่าวทั้งน้ำตา
ด้าน นางรัชนก แซ่ลิ่ม แม่ของทหารที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนเอง ไปแจ้งความที่ สน.บางยี่ขัน แต่ตำรวจบอกว่า เป็นเรื่องของทหาร และขอร้องว่าอย่าไปร้องเรียนกับสื่อ ตำรวจจะจัดการเอง และให้ลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น ขณะเดียวกันได้สอบถามไปยังทหารนายชั้นผู้ใหญ่ของสังกัดค่ายทหารดังกล่าว ยศพันตรี บอกเพียงว่า จะนำทหารเกณฑ์ไปสอบสวน แต่ขอให้แม่ปิดเรื่องนี้ไว้ก่อน ยืนยันจะดูแลคดีให้เอง แต่จนถึงขณะนี้ก็กลับเงียบเฉยๆ คดีไม่คืบหน้า พร้อมกับยื่นข้อเสนอจากฝั่งครอบครัวทหารเกณฑ์ ที่เป็นผู้ต้องหา ว่าจะช่วยเหลือค่าทำขวัญ 2 แสนบาท แต่ครอบครัวไม่ขอรับไว้ และอยากขอความยุติธรรมให้กับบุตรชาย
แม่น้องเก่ง กล่าวทั้งน้ำตา ว่า ลูกชาย สมัครไปเป็นทหารเกณฑ์เพื่อรับใช้ชาติ แต่กลับมาถูกทำร้าย ซึ่งถือว่าไม่ยุติธรรม โดยตอนนี้ได้เก็บศพของน้องเก่ง ไว้ที่วัดบางยี่ขันและจะไม่เผาศพ จนกว่าจะหาคนผิดมาลงโทษได้
สำหรับศพน้องเก่ง ขณะนี้ี ญาติได้เก็บไว้ที่วัดบางยี่ขัน เพื่อรอการชันสูตรอย่างละเอียด ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป