ปฏิบัติการจู่โจมรวบ 5ชายฉกรรจ์แก๊งเก็บเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหด ได้ผู้ต้องหา 5 รายของกลางหลายรายการ มีพฤติกรรมข่มขู่ ด่าทอลูกหนี้
ที่จังหวัดพิจิตร วันนี้ ( 11 ตุลาคม 2561 ) พ.ต.ท.กฤติกร ปานผล หัวหน้าชุดเฉพาะกิจศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านตำบลท่าฬ่อ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ว่ามีแก๊งเก็บเงินกู้นอกระบบอัตราดอกเบี้ยโหด โดยปล่อยเงินกู้แก่ผู้มีรายได้น้อย เก็บดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อวันซึ่งมีพฤติกรรมข่มขู่ ด่าทอ และเหยียดหยามลูกหนี้ รวมทั้งถึงขั้นทำร้ายร่างกายจำนวนหลายราย จึงได้ออกสืบสวนหาข่าวพบว่ามีแก๊งเงินกู้นอกระบบมีพฤติกรรมดังกล่าวจริงตามคำร้องเรียน จึงได้ประสานขอกำลังจากฝ่ายปกครองจังหวัดพิจิตร ตำรวจ สภ.เมืองพิจิตร ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพิจิตร และตำรวจท่องเที่ยวพิษณุโลก สนธิกำลังร่วมกันวางแผนปฏิบัติการจู่โจมเข้าจับกุม
คลิปนาทีจับกุม
โดยสามารถจับกุมได้ผู้ต้องหาจำนวน 2 กลุ่ม รวม 5 คนในบริเวณใกล้เคียงกัน ขณะชายฉกรรจ์กำลังยืนด่าทอและเก็บเงินลูกหนี้ บริเวณถนนภายในหมู่บ้านท่าฬ่อ ตำบลท่าฬ่อ อำเภอเมืองพิจิตร ได้ผู้ต้องหาล้วนเป็นชายฉกรรจ์ รวมทั้งหมดรวม 5 คน ของกลางรถยนต์จำนวน 2 คัน ประกอบไปด้วยกระบะยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน ญศ-503 กรุงเทพฯ รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยตา หมายเลขทะเบียน กว-3005 พิษณุโลก และมีเงินสดรวม 7 หมื่นบาทเศษ สมุดบัญชีลูกหนี้ โทรศัพท์มือถือ นามบัตรบริการเงินด่วนทันใจ และของกลางอื่นๆรวมกว่า 52 รายการ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดทราบว่าเป็นเครือข่ายที่ปล่อยและเก็บเงินกู้ให้กับนายทุนรายใหญ่ที่ตั้งฐานอำนวยการอยู่ในตัวเมืองพิษณุโลก โดยนายทุนจะปล่อยเงินให้กับเครือข่ายรายย่อย ได้นำไปปล่อยกู้กับผู้มีรายได้น้อยตามพื้นที่จังหวัดต่างๆอีกทอดหนึ่ง ซึ่งจะคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาทต่อวัน รวมทั้งหักคิดค่าดำเนินการต่างๆ หากรายใดติดค้างหรือผัดผ่อน ไม่มีเงินส่งให้ ก็จะเข้าไปทวงถามก่อน ตามด้วยการข่มขู่ ด่าทอ บางครั้งถึงขั้นลงมือทำร้ายร่างกาย เพื่อให้ลูกหนี้หวาดกลัวและหาเงินต้นและดอกเบี้ยมาคืนตามกำหนด
ทั้งนี้เพื่อรวบรวมเงินตามยอดไปส่งคืนให้นายทุนของแต่ละวัน โดยผู้ต้องหาทั้งหมดก็จะได้ส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์จากนายทุนตามอัตราส่วนที่ตกลงกัน อย่างไรก็ตามชุดเฉพาะกิจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิจิตร ดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมทั้งจะได้ประสานผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าขยายผลจับกุมนายทุนรายใหญ่ตัวเมืองพิษณุโลกต่อไป ทั้งนี้การปฏิบัติกานดังกล่าวเป็นไปตามเป้าหมายนโยบายรัฐบาล