จากกรณี ครูเวรถูกทำร้าย เมื่อวันที่ (20 ม.ค. 67) ที่โรงเรียนบ้านโป่งเกลือ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ผู้บาดเจ็บคือ นางอัจราภรณ์ อายุ 41 ปี ครูประจำชั้น ป.2 ได้รับบาดเจ็บปากแตก มีแผลฟกซ้ำบริเวณใบหน้าและลำตัว กู้ภัยนำส่งตัวไป รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจาก ผู้บาดเจ็บได้รับหน้าที่เข้าเวรเฝ้าโรงเรียน แล้วจู่ๆ มีชายรายหนึ่งบุกเข้ามาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวอีกว่า รัฐมนตรีว่าการศธ.ทราบถึงภาระและความกังวลใจของคุณครูทั่วประเทศที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เวรรักษาการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเวรกลางวันหรือเวรกลางคืน จึงได้กำหนดนโยบายลดภาระครู
ต่อมา วันที่ 23 ม.ค. 67 ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จึงเสนอให้คณะรัฐมนตรี พิจารณายกเว้นมติวันที่ 6 กรกฎาคม 2542 แก่โรงเรียนของทุกสังกัดตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมตินี้เป็นต้นไป และให้ รวมถึงการอยู่เวรรักษาการณ์ของส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และรัฐวิสาหกิจที่มีการจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัย หรือที่ติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือที่ใช้วิธีการอื่นใดเพื่อรักษาความปลอดภัยแล้วด้วย เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์ร้ายดังกล่าวเกิดขึ้นอีก
ทางเพจ ผู้พิทักษ์ ได้มีการพูดถึงและเคลื่อนไหวประเด็นดังกล่าว โดยมีการระบุข้อความว่า “โซเชียลตำรวจ เริ่มโอดครวญ ข่าว #เข้าเวรแทนครู “เวลา” กับ “เงิน” “ ถ้าจะเอาเวลางานให้ตำรวจไปทำนู่นนี่ ที่ไม่ใช่หน้าที่ ก็ควรจะให้เบี้ยเลี้ยงที่เหมาะสม เพื่อเป็นขวัญกำลังใจด้วย
ความเห็นของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ ที่น่าจะเป็นข้าราชการตำรวจ โพสต์ข้อความคุยในกลุ่มเฟซบุ๊กว่า ถ้ามีคำสั่งลงมาจริง ๆ ก็ต้องปฏิบัติตาม แต่ก็อยากให้มองในมุมตำรวจชั้นประทวนด้วยว่า ตำรวจไม่ค่อยมี “เวลา” กับ “เงิน” ถ้าจะเอาเวลางานให้ตำรวจไปทำนู่นนี่ ที่ไม่ใช่หน้าที่ ก็ควรจะให้เบี้ยเลี้ยงที่เหมาะสม เพื่อเป็นขวัญกำลังใจด้วย
มีความเห็นค่อนข้างหลากหลาย ส่วนใหญ่เป็นการบ่นเชิงตัดพ้อ เช่น บ้านตัวเองแต่ให้คนอื่นรับผิดชอบ, ส่งเสริมให้ตำรวจได้ภรรยาเป็นครู แล้วย้ายไปอยู่บ้านพักครูในโรงเรียนไปเลย ปลอดภัยดี, น่าจะจัดสรรกล้องวงจรปิดสอดส่องน่าจะดีกว่า
ซึ่งข้อความที่ทางเพจนั้น ได้นำมาพูดถึง มาจากได้มีผู้ใช้ Facebook ท่านหนึ่ง ได้มีการโพสต์ข้อความ โดยมีใจความว่า“ล่าสุดจะให้ตำรวจไปเฝ้าโรงเรียนแทนครูแล้ว ถ้ามีคำสั่งลงมาก็ต้องไปแหละ แต่ก็อยากให้มองอีกมุมหนึ่ง ตำรวจชั้นประทวนไม่ค่อยมีเวลากับเงินหรอก เอาเวลางานไปทำนั้นนู่นนี่ที่ ไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจ ก็ควรจะให้เบี้ยเลี้ยงที่เหมาะสมเพื่อเป็นขวัญกำลังใจด้วย“
ที่มา : สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว , ผู้พิทักษ์