เรียกสอบแล้ว! โฆษกประชาธิปัตย์ แถลง ปมข่าวฉาว นักการเมืองหญิง แอบแซ่บพระมหา ยอมรับ เป็นสมาชิกในพรรคจริง จ่อพิจารณาขับออกจากพรรค
สืบเนื่องจากกรณี คลิปฉาวของวงการสงฆ์ หรือ วงการผ้าเหลือง เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ของวันนี้ 10 เมษายน 2567 หลังจากที่เพจดังอย่าง อีซ้อขยี้ข่าว ได้ออกมาโพสต์ข้อความว่า “รอเปิดคลิป ภรรยาของอดีตนักการเมืองและแม่ของนักแสดงคนนึงกับพระมหาหนุ่มวัย 24 ปี…17.00 น” จากนั้น ก็ได้โพสต์คลิปนาที สาวใหญ่อดีตนักการเมือง มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระมหาหนุ่ม ซึ่งผู้ที่ถ่ายคลิปนั้นเป็นสามีใหม่ เรียกได้ว่าเป็นการจับได้แบบคาหนังคาเขา

ซึ่งเมื่อคืนนี้ ในโลกออนไลน์ออนไลน์ ก็ได้มีการออกมาแฉเปิดเผยลักษณะ บุคคลที่ถูกอ้างว่าเป็นสาวใหญ่ที่อยู่ในคลิป วีดีโออีกทั้งยังเธอนั้นยังทำงานในส่วนของการเมืองพรรคดังอีกด้วย ทำให้ทางพรรคต้นสังกัดไม่รอช้าที่จะรีบออกมาตอบโต้ประเด็นนี้ โดยจะมีการแถลงในวันรุ่งขึ้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 11 เมษายน 2567 ที่ พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดแถลงข่าวฉาวกรณีถูกเปิดเผยว่า มีนักการเมืองสาว สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ อดีตผู้สมัครส.ส. มีสัมพันธ์สวาท กับพระมหาหนุ่มวัย 24 ปี เจ้าอาวาสวัดดัง ที่เป็นลูกบุญธรรม และถูกสามีบุกจับได้คาหนังคาเขา จนกลายเป็นข่าวฉาว ที่ทำเสนอไปก่อนหน้านี้
นายราเมศ กล่าวว่า จากกรณีการสอบถามว่า อดีตผู้สมัครส.ส. ประชาธิปัตย์ มีสัมพันธ์กับพรรค เราได้รับทราบข้อเท็จจริงตั้งแต่เมื่อวาน มีสื่อโทรศัพท์มาสอบถาม มีคนแจ้งมา ทางพรรคไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ติดตามในทันที

ในฐานะที่ตนเป็น 1 ในกก.บห.พรรค ได้รายงานให้หัวหน้าพรรคได้ทราบในทันที เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ที่คนเป็นสมาชิกพรรค ต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบจริยธรรม ศิลธรรม และความเป็นที่เชื่อถือศรัทธาของประชาชน ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีของการเป็นสถาบันครอบครัว ทั้งหมดเป็นสาระสำคัญของข้อบังคับพรรค เขียนไว้ชัดว่าต้องทำตามในกรอบจริยธรรมข้อบังคับพรรคอย่างเคร่งครัด เมื่อหัวหน้าพรรคได้ทราบเรื่องแล้ว ก็มีบัญชา และคำสั่งให้ตั้งกก.สอบข้อเท็จจริง โดยมีตน และอดีตส.ส. รวม3 คน มาสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวให้กระจ่างชัด
เมื่อตรวจสอบพบเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ในปัจจุบัน ยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ ตรวจสอบพบเป็นอดีตผู้สมัครพรรคจริง หลังเสร็จเลือกตั้ง ก็ไม่ปรากฎว่าได้ร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองกับพรรค แต่อย่างใด ลึกลงไปปัจจุบัน ตรวจสอบมีรับตำแหน่งในพรรคหรือไม่ ก็พบว่าไม่มีตำแหน่งใดๆ วันนี้จะสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเล็กน้อย สอบถามคนที่เกี่ยวข้องอีกไม่กี่ทัน ให้เสร็จสิ้นใน 3 วัน และรายงานต่อกก.บห. เพื่อพิจารณาต่อไป ซึ่งโทษฝ่าฝืนข้อบังคับพรรค ขัดต่อจริยธรรม ศีลธรรม ก็จะมีโทษถึงขั้นให้พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค