“อนุทิน ชาญวีรกูล“ สวนขบวนการหนุนสารพิษ หัวใจทำด้วยอะไร เอาการเมืองมาเดิมพันกับชีวิตคนไทย อย่าเหมารวมรมต.ภูมิใจไทยลาออกยกคณะ หากผู้ใต้บัญชาฝืนนโยบาย
เมื่อวันที่ 13 ต.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ในโลกโซเชียลที่สนับสนุนคณะกรรมการวัตถุอันตรายสนับสนุนใช้สารพิษต่อ เพื่อให้รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยลาออก อันจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลว่า หัวใจทำด้วยอะไร เอาการเมืองมาเดิมพันกับชีวิตคนไทย การเมืองเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา วันหนึ่งฝ่ายท่าน ย่อมมีโอกาสขึ้นมาทำงาน ฝ่ายรัฐบาลปัจจุบัน มีโอกาสตกลงไปเป็นฝ่ายค้าน มันเป็นวิถีการเมืองตามธรรมชาติ แต่หากปล่อยให้ใช้สารพิษต่อไป สุขภาพของคนไทยทั้งประเทศจะยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ
นายอนุทิน กล่าวว่า วิญญูชนไม่สมควรสนับสนุนการใช้สารพิษ เพียงเพราะหวังเอาชนะทางการเมือง อยากฝากตรงนี้ไว้ให้คิด หากต้องการทำงานรับใช้ประชาชน ให้เอานโยบายมาแข่งกัน ระหว่างนี้ ก็หาทางทำประโยชน์แก่บ้านเมืองให้ประชาชนเลือก หรือหากการสนับสนุนสารพิษคือนโยบายก็ประกาศมาตรงๆเลยว่าตัวท่าน พรรคท่านสนับสนุนสารพิษ แล้วเอาข้อมูลมาคานกัน หรือยื่นให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาเป็นข้อมูลก่อนลงมติ แต่อย่าเชียร์เพราะความสะใจ เนื่องจากสารพิษภาคเกษตรได้ทำลายชีวิตพี่น้องคนไทยมามากแล้ว นี่คือโอกาสที่ใกล้เคียงที่สุดที่เราจะล้างสิ่งเหล่านี้ออกจากประเทศ ขอให้ท่านคิดอย่างรอบคอบ
นายอนุทิน ยังกล่าวกระแสข่าวว่ารัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยประกาศพร้อมลาออกทั้งคณะ หากผู้ใต้บังคังคับบัญชา ซึ่งเป็นคณะกรรมการวัตถุอันตรายแม้เพียงคนเดียว โหวตสวนนโยบายพรรค หันไปสนับสนุนให้ใช้สารพิษทางการเกษตรว่า เป็นการสื่อสารกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 12 ต.ค. ขณะลงพื้นที่พัทลุง แต่น่าจะมีการตีความกันคลาดเคลื่อนไปมาก เพราะที่ต้องการนำเสนอคือ หากรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย ของกระทรวงไหน คุมผู้ใต้บังคับบัญชาไม่อยู่ ก็สมควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก แต่หากใครจัดการเรื่องของตัวเองได้ ผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่โหวตสวน ถือว่าท่านทำงานได้มีประสิทธิภาพ จบแล้ว ท่านก็อยู่ในตำแหน่ง ทำงานรับใช้บ้านเมืองต่อไป
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า จากนี้เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีของพรรคแต่ละคนที่ต้องไปกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาของท่าน ซึ่งสำหรับกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการในสัดส่วนของกระทรวงมีเลขาธิการ อย. และ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และทั้ง 2 ท่านประกาศชัดเจนแล้ว จึงไม่เป็นห่วง ส่วนท่านอื่น เชื่อมั่นว่าจะไม่มีปัญหา เพราะตอนนี้ สังคมก็บีบ หลายหน่วยงานก็บีบ ทุกคนเป็นห่วงสุขภาพคนไทย ใครจะหนุนต้องตอบสังคมให้ได้ จึงเชื่อว่าจะไม่มีใครกล้าฝืนความต้องการของประชาชน เพราะนี่เป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อสุขภาพคนไทยเป็นเดิมพัน