ชลน่าน – ภูมิธรรม ตอบปม ขอขมา “ก้าวไกล” ไม่ใช่ การละคร มั่นใจ! สัปดาห์หน้า “เพื่อไทย” เสนอชื่อ “เศรษฐา” โหวตนายกฯ คนที่ 30 ครั้งเดียวจบ
หลังจากที่ วันนี้ (10 ส.ค.66) พรรคเพื่อไทย ได้แถลงร่วมจัดตั้งรัฐบาล ร่วมกับ พรรคชาติไทยพัฒนา โดยมีผู้ร่วมแถลง อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย , ภูมิธรรม เวชชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย , ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย , วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา , ประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา , นิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งมีคะแนนเสียง ณ ขณะนี้ จำนวน 238 เสียง
ช่วงตอบคำถามสื่อมวลชน
กรณีที่พรรคเพื่อไทย ไปพูดคุยกับพรรคก้าวไกล จะเป็นปัญหาในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ คำถามนี้ วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุว่า การที่แต่ละพรรคแสดงเจตจำนง ก็เป็นหน้าที่ของทุกพรรคในการหาคะแนนเสียงในการโหวตนายกฯ ซึ่งก็เป็นสิทธิของแต่ละพรรค และวันนี้พรรคชาติไทยพัฒนา ตอบรับแล้วก็ต้องช่วยกันหาคะแนนเสียง และมองว่าไม่น่าเกิดปัญหา
สว.บางส่วน มีความกังวล ว่าการที่พรรคเพื่อไทย ไปขอเสียงสนับสนุนจากพรรคก้าวไกล จะเป็นการดึงพรรคก้าวไกล เข้าร่วมรัฐบาลช่วงหลัง นั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตอบว่า พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล พยายามจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ผลการทำหน้าที่ในนาม 8 พรรคร่วม รวม 312 เสียง ไม่ประสบผลสำเร็จ ไม่ได้รับการสนับสนุน และพรรคเพื่อไทย ได้รับการส่งไม้ต่อ ซึ่งก็พยายามถึงที่สุดเพื่อขอคะแนน เพราะใน 312 เสียง เป็นไปไม่ได้ หากจะเดินทางเดิม ก็จะได้เพียง 324 เสียง
นพ.ชลน่าน บอกว่า การไปสอบถามรายบุคคล สส. สว. และพรรคการเมือง ที่ทำอย่างเปิดเผย เพื่อต้องการคำตอบที่เปิดเผยว่า ทำไม สส. สว.ถึงไม่ลงคะแนนให้ตอน ที่พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ซึ่งคำตอบชัดเจน ติดการแก้ไข ม.112 จำนวน 4 พรรค ซึ่งเขาก็ตอบชัดว่าลงคะแนนให้ไม่ได้ มีเพียงพรรคเดียวเท่านั้น ที่บอกว่า หากมีการปลดล็อกเงื่อนไข เขาก็สามารถร่วมได้
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย มีความจำเป็นในการหาเสียง หาคะแนน ภายใต้เงื่อนไข หากมีก้าวไกลอยู่ จะไม่ได้คะแนน เพื่อไทยจำยอมที่ต้องทำ ย้ำว่าไม่เคยเกลียดพรรคก้าวไกล ไม่เคยปฏิเสธเสียงประชาชน หากพรรคเพื่อไทย ไม่ทำอะไรเลยก็เหมือนการปฏิเสธเสียงพี่น้องประชาชน

นพ.ชลน่าน ยังได้กล่าวอีกว่า ไม่ว่าจะเป็นพรรคก้าวไกล หรือใคร เป็นเพียงเพื่อขอเสียงมาโหวตนายกฯ ไม่ใช่จัดตั้งรัฐบาล เพราะตอนนี้ต้องยอมรับว่า เราติดล็อกรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นการเดินทางไปคุยกับทุกพรรค เช่น ก้าวไกล เป็นการไปสอบถามว่าเราจะปลดล็อกเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญ เราไม่ได้เชิญชวนพรรคก้าวไกล มาเป็นพรรคร่วม ไม่มีพันธะสัญญาจะเอาพรรคก้าวไกลมาเป็นพรรคร่วมหลังจากนี้ เชื่อจะตอบคำถาม สว.ได้ และน่าจะได้รับการยอมรับ
นอกจากนี้ นายภูมิธรรม ยังได้ย้ำอีกด้วยว่า ไม่ใช่เชิญพรรคก้าวไกล ร่วมรัฐบาล เพราะเราชัดเจนตั้งแต่ แยก MOU ว่า พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งเมื่อวานเป็นการไปพูดคุย เพื่อสร้างมิติการเมืองใหม่ ทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ย้ำว่าพูดกับก้าวไกลไปแล้ว อะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเราช่วยกัน เว้น ม.112
ในการเชิญ พรรคประชาธิปัตย์ รวมไทยสร้างชาติ และพลังประชารัฐ ทำไมไม่เชิญมาร่วมด้วย คำถามนี้ ภูมิธรรม ย้ำว่า พรรคเพื่อไทย ไม่ได้เชิญมาร่วมรัฐบาล เราเชิญมาโหวตนายกฯ และก็ได้ไปพบทุกพรรค ทุกกลุ่ม คุยแล้ว แต่ขอให้เป็นไปตามกระบวนการตามกรอบเวลา ยังรอได้ถึงวันที่ประธานสภา กำหนดวันเลือกโหวตนายกฯ ซึ่งวันนั้น จะเป็นวันจริง
เป็นไปได้หรือไม่ถ้า หากพรรคประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ จะมาร่วมรัฐบาลหลังการโหวตนายกรัฐมนตรีให้กับพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ตอบว่า การจัดตั้งรัฐบาลนั้นจะต้องมีเสียงข้างมาก เพื่อให้มีเสถียรภาพ จากที่ได้มีการคุยกับพรรคการเมืองทุกพรรค เราได้สร้างความมั่นใจมาโดยตลอดว่าเรามีเสียงข้างมากแล้ว ทุกพรรคถึงมาร่วมกับเราได้ เพราะหลายพรรคเสนอเงื่อนไขว่าหากเป็นเสียงข้างน้อยจะไม่ร่วมรัฐบาล โดยเราขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย ได้เสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่งแล้ว แต่จะเป็นเสียงข้างมากเด็ดขาดถึง 300 หรือ 280 ก็อยู่ในขั้นตอนที่กำลังดำเนินการ
เราขอย้ำว่าพรรคเพื่อไทยมีทางเลือกไม่มาก และได้ทำทางเลือกเสนอทางเลือกที่ดีที่สุด บนพื้นฐานที่สามารถเป็นไปได้ โดยจะเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อประเทศชาติ และหากตั้งรัฐบาลได้ ผลงานก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์ ระหว่างพรรคเพื่อไทย และ พรรคร่วมรัฐบาล โดยมีความเชื่อมั่นว่า ประเทศจะต้องกลับมา จากการแบ่งขั้ว แบ่งสี การสร้างวาทกรรมจากบางเรื่องบางราว ถ้าเราควบคุมได้ ทุกอย่างจะเดินหน้าได้
ส่วนกรณีที่ พรรคเพื่อไทยถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ากำลังแสดงละคร จนถูกวิจารณ์ว่า “เพื่อไทยการละคร” นั้น นพ.ชลน่าน มองว่า เราเป็นองค์กรที่อาสามาทำงานการเมือง ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ทุกเสียงทุกคำวิพากษ์วิจารณ์เรารับฟัง ส่วนจะถูกใจหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับวิธีคิดของแต่ละคน เรายินดีที่จะรับมา พิจารณาหากเป็นประโยชน์ อันไหนที่ไม่เป็นประโยชน์ เราก็ได้แต่ฟังและผ่านไป ไม่สามารถไปปิดกั้นแสดงความคิดเห็นได้
“เรายืนยันว่าสิ่งที่พรรคเพื่อไทยทำ เราทำจากบนพื้นฐานความเป็นจริง และบนพื้นฐานของข้อเสนอแนะ จากนักวิชาการ และคนที่มีประสบการณ์ทางการเมือง พรรคเพื่อไทยทำทุกช่องทาง ซึ่งถ้าหากกับการหากเราไม่ทำก็จะถูกตำหนิ ส่วนจะได้ผลหรือไม่นั้น ก็เอามาประกอบกันตัดสินใจในการเดินหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล”

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY