จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (16 เมษายน) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุฆาตกรรมในโรงแรมหรูย่านตลาดพลู จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ พบศพ น.ส.สุกัญญา (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดในชุดเสื้อยืดแขนสั้นสีแดง กางเกงยีนส์ มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่ลำตัวทั้งหน้า หลัง รวม 31 แผล เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง ใกล้กันพบมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุตเปื้อนเลือด
โดยระหว่างที่ตำรวจกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ ยังมีเจ้าหนี้โทรฯเข้ามาทวงหนี้จากผู้ตายอีกด้วย ภายในห้องข้าวของกระจายเกลื่อน บนโต๊ะแต่งหน้ายังพบหมวกกันน๊อกแบบเต็มใบสีน้ำเงินของคนร้ายวางอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบเบื้องต้นทรัพย์สินผู้ตายยังอยู่ครบ
จากการสอบถาม พนักงานต้อนรับ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ช่วงใกล้เที่ยงได้ยินเสียงคนทะเลาะกันอย่างรุนแรงในห้องเกิดเหตุ จึงโทรศัพท์ขึ้นไปหาผู้เช่า ปรากฏว่า ฝ่ายชายเป็นผู้รับ แล้ววางสายถึง 2 ครั้ง สักพักเสียงทะเลาะก็เงียบไป จึงคิดว่าน่าจะคุยกันรู้เรื่องแล้ว จนกระทั่งบ่ายโมงเศษ เห็นชายคนดังกล่าวเดินลงมาจากชั้น 2 ทำทีเล่นโทรศัพท์ แล้วเดินออกไปหน้าปากซอยอย่างใจเย็น
- ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เร่งล่าตัว! หนุ่มอินเดียฆ่าสาวใหญ่ ในโรงแรมหรู ย่าน ตลาดพลู
ล่าสุด โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสจาก โรงพยาบาล ท่ามะการักษ์ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ว่า พบผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียเข้ามารับการรักษาบาดแผลที่แขนขวา ซึ่งคาดว่าเป็นแผลที่เกิดขณะคนร้ายก่อเหตุฆาตกรรมสาวใหญ่ ก่อนจะเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้ออกมาเปิดเผยสาเหตุที่ นายราชมาน ยาบาฟ อายุ 32 ปี หนุ่มอินเดีย ลงมือสังหาร น.ส.สุกัญญา (สงวนนามสกุล) จนเสียชีวิต โดยเจ้าตัวรับสารภาพว่า เหตุที่ตนต้องลงมือแทงฝ่ายหญิง เนื่องจากเคยโดนผู้เสียชีวิตหลอกยืมเงินหลายครั้ง แม้ตนเองจะทวงเงินไปหลายครั้งแต่ผู้ตายก็ไม่ยอมคืน จึงทำให้เกิดปากเสียงและลงมือฆ่าอีกฝ่ายจนถึงแก่ความตาย
ทั้งนี้ หลังจากที่ผู้ก่อเหตุได้รับการรักษาเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่สืบสวนก็ได้คุมตัวผู้ก่อเหตุไปสอบสวนยัง สน.ตลาดพลู เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เนื่องจากยังไม่ปักใจเชื่อคำกล่าวอ้างทั้งหมดของฆาตกรและยังต้องหาหลักฐานข้อมูลเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงกันต่อไป