จากกรณี น้องชมพู่ เด็กหญิง 3 ขวบ หายตัวไปจากบ้านพักในอ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร นาน 4 วัน กระทั่งพบเป็นศพในสภาพเปลือยในป่าบนเขา โดยผลการชันสูตรศพน้องชมพู่ ในครั้งแรก ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย หรือการล่วงละเมิดทางเพศ อย่างไรก็ตามทาง พ่อ-แม่ ยังคงติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงส่งศพน้องชมพู่ ตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่นิติเวช รพ.ตำรวจ นายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ ได้เดินทางมา เพื่อรับศพ หลานสาวของตนเอง โดยมี ร.ต.อ.นิพนธ์ ประเสริฐสังข์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.กกตูมจ.มุกดาหาร เป็นผู้มารับผลการชันสูตรของ น้องชมพู่ ทั้งนี้รายงานผลการชันสูตรศพ น้องชมพู่ เบื้องต้นว่า พบบาดแผลที่อวัยวะเพศและร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย
โดยนายไชย์พล กล่าวว่า ตนทราบผลชันสูตรในครั้งที่2 มีผลที่ดีขึ้นกว่าครั้งแรก มีร่องรอบการทำร้ายร่างกาย การล่วงละเมิดทางเพศ ถือเป็นการกระทำที่โหดร้าย รับไม่ได้ที่มีคนมาทำกับหลานแบบนี้ ซึ่งหลังจากนี้ต้องรอว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะช่วยทางคดีได้มากน้อยเพียงใด ในใจลึกๆ ไม่อยากให้คนร้ายเป็นคนในชุมชน เพราะว่ามันน่ากลัว และตอนนี้ยังหาคนร้ายไม่ได้ ถ้าเป็นคนในพื้นที่และอยู่ใกล้ตัว ก็ถือว่าอันตราย ส่วนตัวยังไม่สงสัยใคร ต้องรอให้ทางพ่อแม่เด็กเป็นผู้ให้ข้อมูล
ด้าน พ.ต.อ.วาที อัศวุตมางกุร รองโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ ตรวจพบร่องรอยถูกกระทำทางเพศ แพทย์จึงเก็บตัวอย่างของเหลวในช่องคลอดไปตรวจหาอสุจิ ซึ่งระยะการเสียชีวิตยังไม่นานเกินไป หากมีอสุจิก็สามารถตรวจพบได้
ส่วนน้องชมพู่ จะถูกข่มขืน กระทำชำเราหรือไม่ ต้องรอผลตรวจจากห้องปฏิบัติการ ส่วนบาดแผลที่พบไม่สามารถให้รายละเอียดได้ว่าเป็นบริเวณใดของร่างกาย ซึ่งแพทย์ได้เก็บตัวอย่างเลือด ไปตรวจหาสารเสพติด และสารพิษ เพื่อดูว่ามีการวางยาหรือไม่
ทั้งนี้แพทย์ยังไม่สามารถระบุการเสียชีวิตได้ จึงเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อไปตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง เนื่องจากชิ้นเนื้อจะสามารถระบุได้ว่า บาดแผลที่เกิดขึ้นเกิดจากการถูกทุบตี , กดทับ หรือมีการลากร่างเกิดขึ้นหรือไม่ เบื้องต้นคาดใช้เวลาอีก 30 วัน ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการจะออก จากนี้แพทย์จะได้แจ้งผลการชันสูตรต่อพนักงานสอบสวน และแจ้งให้ญาติรับทราบต่อไป
