หลังจากมีการเสนอ ทราเวลบับเบิล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทย รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เผย ศบค.เห็นชอบแล้ว โดยมีเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มนักธุรกิจ และกลุ่มผู้ป่วยโรคอื่นๆ ที่มีใบนัด
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ที่มี นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบในหลักการ ให้เปิดท่องเที่ยวแบบจับคู่เดินทางเฉพาะประเทศที่ควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ดี ตามที่มีคำเรียกว่า Travel bubble โดยให้ตั้งคณะทำงานร่วม 4 กระทรวงคือ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย เพื่อนำรายละเอียดและวิธีปฏิบัติ เสนอ ศบค.ชุดเล็กในวันพุธที่ 17 มิ.ย.นี้ และจะนำร่องประเทศในกลุ่มที่ควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ดีใกล้เคียงกับประเทศไทย
โดยมีเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มนักธุรกิจ ที่ต้องมีหนังสือเชิญเดินทางจากบริษัทในเมืองไทย ต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ปลอดจากโควิด-19 อายุไม่เกิน 72 ชั่วโมง เมื่อเข้ามาเมืองไทยก็ปลอดการกักตัว 14 วันทั้งขาเข้า และขาออก
ส่วนอีกกลุ่มคือ ผู้ป่วยโรคอื่นๆ ที่ไม่ใช่โควิด-19 ที่ต้องเดินทางมารักษาตัวในเมืองไทย กลุ่มนี้ต้องมีใบนัด หรือหนังสือรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลที่ต้องเข้ารับการรักษา กลุ่มนี้ต้องไม่เข้ามาเพื่อรักษาโควิด-19 ต้องมีใบรับรองแพทย์โควิด-19 ไม่เกิน 72 ชั่วโมง โดยทั้งกลุ่มนักธุรกิจและผู้ป่วย ต้องทำประกันสุขภาพกรณีมีปัญหาขึ้นมาทางรัฐบาลไทยจะไม่ต้องไปจ่ายเงินให้ โดยเมื่อเข้าเกณฑ์มีเอกสารครบสามารถนำเอกสารไปขอวีซ่าเพื่อเดินทางเข้ามาเมืองไทยได้เลย
“การดำเนินการเพื่อทราเวล บับเบิล คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ประมาณ 1 ก.ค.นี้ที่ประเทศไทยจะเปิดน่านฟ้า และจะใช้เวลาทดลองดำเนินการ 1 เดือน โดยไทยมีสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 1,000 คนต่อวัน จากนั้นหากไม่มีปัญหา ในเดือนส.ค.จะเปิดกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง หรือ ไฮเอ็นด์ เข้ามาเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่ต่างชาติมีความนิยม คือ ภูเก็ต สมุย กระบี่ พะงัน แต่มีเงื่อนไขไม่ให้เกิดทางข้ามจังหวัด”