ขยายปม! สาวนามสกุลดังเสียชีวิตปริศนา พบเตรียมการล่วงหน้า สั่งซื้อปืนไทยประดิษฐ์พร้อมกระสุน แต่เจ้าหน้า ตร. ยังไม่ตัดประเด็นไหนออก
เมื่อเวลา 18.40น. วันที่ 4 สิงหาคม 67 ร.ต.อ.ครรชิต พินิจ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา รับแจ้งเหตุว่ามีผู้พบศพหญิงนอนเสียชีวิตในป่าละเมาะ ถนนธนะรัชต์ เส้นทางมาจากเขาใหญ่ ช่วง กม.8 ถนนแยกเข้าไปสนามแข่งรถ ประมาณ 200 เมตร พื้นที่ ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชา แล้วรีบรุดออกไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วีระพล ระเบียบโพธิ์ ผกก.สภ.ปากช่อง
จากการตรวจสอบ พบศรีษะด้านขวาถูกยิงเข้าบริเวณขมับข้างขวาทะลุข้างซ้าย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วกว่า 8 ชั่วโมง บริเวณหว่างขา พบปลอกกระสูนปืนตกอยู่ 1 ปลอกและกระสูนปืน 1 ลูก ห่างไปพบปืนสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด 38 ตกอยู่ไต้ท่อนไม้ไผ่ และพบกระเป๋าเดินทางแบบมีล้อลาก สีน้ำตาลลายหลุยส์ 1 ใบ ตรวจสอบ มีสำเนาบัตรประจำตัว ชื่อ น.ส.เนตรนภา กรรณสูตร อายุ 34 ปี อ.เมือง จ.นครราชสีมา
นางสาววาสนา (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ลูกจ้างร้านอาหารใกล้ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ช่วงสายของเมื่อวาน ตนเองกำลังขับรถออกมาทำงาน ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนดัง มาจากฝั่งที่พบศพผู้เสียชีวิต ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ไม่ได้สงสัยอะไร เนื่องจากว่าบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุเป็นสนามยิงปืน ซึ่งจะเป็นเรื่องปกติของชาวบ้านในพื้นที่ที่จะได้ยินเสียงปืนเป็นประจำ ตนเองมาทราบภายหลังช่วงเย็น ว่ามีคนเสียชีวิตภายในป่า จึงคาดว่าเสียงปืนที่ตนเองได้ยิน เป็นช่วงที่คนร้ายได้ลงมือก่อเหตุ
นายแดง แข็งการ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เผยว่า ได้รับแจ้งจากสายตรวจตำบล พบหญิงสาวนอนเสียชีวิตอยู่ในป่า จึงรีบมาตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าที่ตำรวจ พอไปถึงที่เกิดเหตุพบหญิงสาวนอนหงาย และพบอาวุธปืนวางอยู่ใต้หว่างขา ซึ่งตอนเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ กรณีเสียงปืนที่ชาวบ้านได้ยิน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ เนื่องจากว่าบริเวณใกล้เคียงเป็นสนามยิงปืนจึงทำให้ชาวบ้านไม่ได้แปลกใจอะไร อีกทั้งเวลานั้นมีฝนตก ชาวบ้านจึงไม่ได้ออกมาดู
นางสาวจอย (นามสมมุติ) พนักงานรีสอร์ทแห่งหนึ่งที่ผู้ตายเข้าพักก่อนเสียชีวิต เล่าว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ผู้ตายมาเปิดห้องพัก ราคา 590 บาท จากนั้นต่อมาวันที่ 2 ส.ค. ช่วงเช้า ผู้ตายเดินออกจากรีสอร์ท และกลับเข้ามาตอน 2 ทุ่ม พอกลับเข้ามาถึงผู้ตายโทรศัพท์ติดต่อมายังพนักงานแจ้งว่าเปิดห้องไม่ได้ลืมกุลแจไว้ พนักงานจึงได้มาเปิดห้องพักให้
จากนั้น วันที่ 3 ตอนเช้า เวลา 8.30 น. ผู้ตายเดินลากกระเป๋าออกจากห้องพัก เพื่อมาเช็คเอ้าที่เคาน์เตอร์ ระหว่างนั้น ผู้ตายมายืนอยู่ที่หน้าออฟฟิศ ก่อนจะบอกกับพนักงานว่าขอฝากกระเป๋าไว้หน่อย เดี๋ยวหามาเอา ซึ่งภายในกระเป๋ามีโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สายชาร์ต กระเป๋าเงิน และเอกสาร ก่อนที่ผู้ตายจะยื่นเงินสดให้กับพนักงาน 200 บาท บอกว่าเป็นค่าฝากกระเป๋า ก่อนเดินออกจากรีสอร์ทเลี้ยวขวาเดินมายังที่เกิดเหตุ
จากการ ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย เบื้องต้นเนื่องจากว่าผู้ตายไม่ได้ล็อคเครื่อง พบว่ามีการสั่งซื้อปืนไทยประดิษฐ์พร้อมกระสุน และยังพบอีกว่าอัลบั้มรูปภาพในโทรศัพท์ของผู้ตาย ได้มีการถ่ายภาพตามสถานที่ต่างๆ เริ่มตั้งแต่เดินออกจากรีสอร์ท รวมถึงจุดที่พบศพผู้ตาย ซึ่งวันที่และเวลาจากรูปถ่าย ซึ่งตรงกับวันที่ผู้ตายได้หายออกจากรีสอร์ทไปจนกระทั่งกลับมาช่วงกลางดึกของวันที่ 2 จึงคาดว่าผู้ตายได้เตรียมการและไปดูสถานที่ไว้แล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวน และทราบว่าสาวผู้ตาย ได้พักอยู่ที่ ซอยรามคำแหง 29 กรุงเทพมหานคร และได้เดินทางมาพักอยู่ที่ รีสอร์ทแห่งหนึ่งริมถนนธนะรัชต์ เส้นทางไปเขาใหญ่ ใกล้จุดเกิดเหตุ ประมาณ 800 ม. โดยมาพักคนเดียว ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.67 และได้เช็คเอาต์ออกจากที่พักในช่วงเช้าวันที่ 3 ส.ค.ก่อนออกจากรีสอร์ทได้ฝากกระเป๋าใบเล็กไว้กับพนักงานที่เคาน์เตอร์รีสอร์ท พร้อมลากกระเป๋าออกมาตามภาพ
กล้องวงจรปิดรีสอร์ทผู้ตายเข้าพักก่อนเสียชีวิต
(1) เวลา 08.04 น. ผู้ตายเดินลากกระเป๋าหลุยส์ 1 ใบ มือขวาถือกระเป๋าหิวสีม่วง 1 ใบ และสะพายกระเป๋าสีดำอีก 1 ใบ ออกจากห้องพัก มายัง เคาน์เตอร์ที่อยู่หน้าด้านหน้ารีสอร์ท
(2) เวลา 18.08 น. ผู้เดินลากมายังเคาน์เตอร์เช็คอินที่อยู่หน้าบริเวณรีสอร์ท จากนั้นผู้ตายได้ยินพูดคุยกับพนัก จากนั้นผู้ตายได้ยื่นกระเป๋าสะพายสีดำฝากไว้กับพนักงานรีสอร์ท
(3) เวลา 08.10 น. ผู้ตายเดินลาดกระเป๋าออกจากรีสอร์ท ก่อนจะเลี้ยวขวาไปยังจุดที่พบศพ ห่างจากรีสอร์ท 800 เมตร
หลังจากที่มีการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตซึ่งพบอยู่ในกระเป๋ากระเป๋าสะพายสีดำที่ผู้ตายได้ฝากไว้กับพนักงานรีสอร์ท พบว่ามีการค้นหาและสั่งซื้ออาวุธปืนพร้อมกับเครื่องกระสุน
อีกทั้งยังพบอีกว่าภายในอัลบั้มรูปภาพในโทรศัพท์มือถือของผู้ตายมีคลิปวิดีโอ ที่ถูกถ่ายและบันทึกจากผู้ตายเอง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ระหว่างที่ผู้ตายบันทึกภาพซึ่งกำลังเดินออกจากรีสอร์ทของวันที่ 2 ผู้ตายได้เดินมาถ่ายภาพบริเวณจุดที่เสียชีวิตไว้ในเครื่องโทรศัพท์มือถือ ก่อนที่จะเดินกลับมายังรีสอร์ท และเช็คเอาท์ออกจากรีสอร์ทวันที่3 ผู้ตายได้เตรียมการและหาสถานที่จุดปลิดชีพ
ส่วน สาเหตุการเสียชีวิต นั้น ทางตำรวจ ยังไม่ตัดประเด็นอะไรทิ้ง ทั้งฆ่าตัวตาย และการถูกฆาตกรรม ขณะนี้ญาติผู้ตายมาพบพนักงานสอบสวน ทราบว่าไม่มีอะไรขัดแย้งส่วนตัว ต้องรอความเห็นจากแพทย์ได้ส่งไปผ่าพิสูจน์ที่ รพ. มหาราช จ. นครราชสีมา และผลจากตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 3 นครราชสีมา จึงจะสรุปหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง
