ไม่ใช่ครั้งแรก! หนุ่มจีน ลอยคอเล่นน้ำปิง เชียงใหม่ พร้อมโบกมือทักทายชาวบ้าน ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ล่าสุดตามจับได้แล้ว พร้อมปรับ 5 พัน
จากกรณีที่ บริเวณจุดตรวจวัดระดับน้ำในแม่น้ำปิง P.1 สะพานนวรัฐ ในตัวเมืองเชียงใหม่ พบผู้ชายคนหนึ่งเกาะวัสดุที่คาดว่าจะเป็นโฟมลอยไปตามกระแสน้ำในแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวกราก โดยมีสีหน้ายิ้มแย้มและโบกมือให้ผู้ที่พบเห็น สร้างความตื่นตกใจแก่ประชาชนที่กำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำปิง
โดยชาวบ้านในพื้นที่ได้ถ่ายคลิปวิดีโอชายรายดังกล่าว และเผยแพร่บนโลกออนไลน์พร้อมกับตั้งคำถามว่า “ชายคนนี้เป็นคนเดียวกันกับที่เคยทำคอนเทนต์กระโดดน้ำปิงจากสะพานจันทร์สม ใกล้ตลาดต้นลำไย ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ในช่วงที่น้ำปิงหลากเมื่อสัปดาห์ก่อนใช่หรือไม่”
- ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ไม่รู้ร้อนรู้หนาว! ชาวจีน เล่นน้ำปิง เชียงใหม่ สบายใจเฉิบ ไม่แคร์สายตาใคร
ด้านศูนย์วิทยุนครพิงค์ ภายหลังได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่ามีคนลอยคอในแม่น้ำปิง จึงได้แจ้งสายตรวจเขตออกตรวจสอบ และประสานกู้ภัยเจดีย์งามเทศบาลนครเชียงใหม่ให้การช่วยเหลือและนำตัวขึ้นฝั่งใกล้สะพานเม็งราย ย่านหนองหอย อ.เมืองเชียงใหม่ ได้อย่างปลอดภัย โดยระยะทางที่ชายคนดังกล่าวลอยคอในแม่น้ำปิงยาวประมาณ 3 -4 กิโลเมตร
ต่อมา พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ และล่ามแปลภาษาจีน นำตัวนาย LI , BIN นักท่องเที่ยวชาวจีนที่ก่อเหตุ มายัง สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อสอบปากคำและแจ้งข้อหา “ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ในที่สาธารณะ และทำให้ผู้อื่นตกใจหวาดกลัว” พร้อมดำเนินการเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุด จำนวน 5,000 บาท
โดยผู้ชายคนดังกล่าวถูกระบุว่าเป็นคนจีน และเคยก่อเหตุแบบเดียวกันนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อช่วงที่เกิดสถานการณ์แม่น้ำปิงล้นตลิ่งเข้าท่วมเขตตัวเมืองเชียงใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะที่ในเวลาใกล้เคียงกันนั้น นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำที่บริเวณดังกล่าวเช่นกัน พร้อมระบุว่า จากการประเมินของชลประทานคาดว่าน้ำที่มาระลอกนี้จะมีปริมาณเท่ากับครั้งก่อนหน้าหรืออาจจะมากกว่านิดหน่อย โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศแจ้งเตือนไปยังพื้นที่เสี่ยงเกิดน้ำท่วมทั้งในเขตเมืองเชียงใหม่และพื้นที่ที่มีแม่น้ำปิงไหลผ่าน ให้เก็บของขึ้นที่สูงพร้อมกับเคลื่อนย้ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตลอดจนกลุ่มเปราะบาง ออกจากพื้นที่ โดยเฉพาะโซน 1, 2 และ 3 ในเขตเมืองเชียงใหม่ ซึ่งจะเป็นพื้นที่แรกที่จะได้รับผลกระทบจากมวลน้ำดังกล่าว
