พ.ร.ก.ฉุกเฉิน – พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ประชุมร่วมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กับกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่า มาตรการล่าสุดของ ศบค. มีมาตรการผ่อนคลายในระยะต่อไปให้กับ 5 กลุ่ม คือ กลุ่มประเทศติดเชื้อต่ำประเทศไทยที่จะมีข้อตกลงพิเศษ 5 ประเทศ กลุ่มทีมงานถ่ายทำภาพยนตร์จากต่างประเทศ กลุ่มแรงงานต่างด้าว กลุ่มสัมมนาระดับนานาชาติ และกลุ่มผู้ถือบัตรผู้ถืออีลีทการ์ด
โดยกระทรวงการต่างประเทศได้เชิญผู้แทนสถานทูตทุกประเทศที่อยู่ในประเทศไทยมาชี้แจงทำความเข้าใจแล้ว และได้รับการตอบรับให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีที่จะร่วม State Quarantine เป็นระยะเวลา 14 วัน โดยมีข้อห่วงใยเป็นพิเศษเรื่องกลุ่มแรงงานข้ามชาติที่จะเข้ามาประมาณ 110,000 คน ไม่ว่าจะเป็นเมียนมา กัมพูชา ลาว ที่จะต้องดำเนินการกักตัว 14 วัน โดยมีกระทรวงแรงงานพิจารณารูปแบบและค่าใช้จ่ายที่ผู้ประกอบการยอมรับได้ ส่วนกระทรวงมหาดไทยจะทำหน้าที่ในการที่จะดูแลรับผิดชอบทุกคนที่เข้ามาในด่านทั้งทางบกและทางน้ำ เตรียมการรองรับการเข้า – ออก ของแรงงานต่างด้าว
ส่วนกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าจะยังคงมี พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต่อไปหรือไม่นั้น ผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่าหัวใจสำคัญคือเรื่องของการกักตัว 14 วัน ซึ่งอาจถือเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ถ้าไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็อาจไม่สามารถบังคับกักตัว 14 วันได้ จึงมีข้อเสนอแนะให้ไปตรวจสอบว่าใน พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อนั้น มีข้อความใดที่จะนำไปออกเป็น พ.ร.ก.ที่ให้สามารถบังคับกักตัวขึ้นใช้ทดแทน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อจะได้ใช้กฎหมายนั้นมาทดแทน แต่ขณะนี้ยังไม่มี