กลุ่มเพื่อนนักกฎหมายไทย เดินทางเข้าพบ “น้องบีม” เด็กหญิงพิการ ที่อดีตเคยโด่งดังจากการร้องเพลงประสานภาพยนตร์โฆษณา แต่ในตอนหลังถูกทนายความอาสาหลอกหลวงเงินจากการชดเชยค่าเสียหายไปกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งในวันนี้ “น้องบีม” ยื่นหลักฐานต่อกลุ่มเพื่อนนักกฎหมายไทย เพื่อนำเรื่องราวเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือ ติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้ได้จาก คุณณัฐพงษ์ เรียบสันเทียะ ผู้สื่อข่าวไบรท์นิวส์
ตัวแทนกลุ่มเพื่อนนักกฏหมายไทยได้ติดต่อเข้าพบ นางพรทิพย์ จันทรัตน์ และ “น้องบีม” เด็กหยิงพิการอายุ 14 ปีที่ถูกทนายอาสาโกงเงิน 5 ล้านบาท จากเหตุรถชนที่จังหวัดสุราษฏร์ธานีเมื่อปี 2548 โดยเอกสารสำคัญที่นางพรทิพย์ จันทรัตน์ และ “น้องบีม” ผู้เสียหายได้นำมาให้สื่อมวลชน และตัวแทนกลุ่มเพื่อนนักกฏหมายไทยได้ดูในวันนี้ คือ หนังสือมอบอำนาจที่ถูก ทนายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ หลอกให้ นางพรทิพย์ เซ็น
โดย นางพรทิพย์ เล่าว่า หลังจากที่ศาลชั้นต้นสั่งจ่ายเงินเยียวยาจากบริษัทรถ 18 ล้อที่ชนน้องบีมและครอบครัว เป็นเงินจำนวน 5 ล้านบาทโดย ทนายพิสิษฐ์ ได้นำใบมอบอำนาจเปล่า ๆ มาให้เซ็น โดยอ้างว่าจะเขียนรายละเอียดในหนังสือภายหลัง นอกจากนั้น ทนายพิสิษฐ์ จัดตั้งคณะกรรมการบริษัทรถ 18 ล้อขึ้นมาเองโดยใช้บุคคลใกล้ตัวในการเป็นผู้แทนบริษัท
ทั้งนี้ น.ส.ณุมาพร พัฒนพงศธร ตัวแทนกลุ่มเพื่อนนักกฏหมายไทย กล่าวว่าไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า ทนายพิสิษฐ์ เป็นการส่วนตัว และจากการโทรศัพท์ไปก็ไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งนี้มีข้อมูลว่าก่อนมีข่าวเคยเจอ ทนายพิศิษฐ์ เดินทางมาว่าความที่ศาลจังหวัดนนทบุรี
หลังการเข้าพูดคุย นางพรทิพย์ ยอมรับว่า ต้องการเพียงแค่ให้ ทนายพิสิษฐ์ นำเงินที่เหลืออยู่มาคืน “น้องบีม” และอยากให้เห็นใจคนที่เป็นผู้พิการ ที่ไม่สามารถทำมาหากินได้ปกติเหมือนคนทั่วไป แต่สำหรับการดำเนินคดีตามกฎหมาย หาก นางพรทิพย์ ได้เงินชดเชยจาก ทนายพิสิษฐ์ครบจำนวนก็ไม่ติดใจเอาความ ทั้งนี้ ทนายพิสิษฐ์ จะถูกดำเนินคดีฐานปลอมแปลงเอกสารและฉ้อโกง นอกจากนั้นก็จะถูกยึดใบวิชาชีพจากสภาทนายความทันที