จากกรณีที่มีกลุ่มคนร้ายไม่ต่ำกว่า 3 คน ขับรถเก๋งสีดำ ใช้อาวุธสงครามไล่ยิงถล่มรถคู่อริกว่า 30 นัด ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง จนต้องจอดรถวิ่งหลบหนีเข้าป่า ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คน รอดตายอย่างหวุดหวิด ล่าสุด ตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ พร้อมเรียกการ์ดของสถานบันเทิงเข้าสอบปากคำเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา
การ์ดของสถานบันเทิงใจกลางเมืองตรังรวม 3 คน ได้เข้าให้ปากคำกับตำรวจภูธรเมืองตรัง โดยบอกว่ารู้จักกับกลุ่มผู้ต้องหาบางคน เพราะเป็นนักเที่ยวขาประจำ แต่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ส่วนผู้เสียหาย และกลุ่มผู้ก่อเหตุ คาดว่าน่าจะรู้จักกันมาก่อน และเหตุเกิดนอกสถานที่ ซึ่งการ์ดของสถานบันเทิงก็ได้เข้าห้ามปรามแล้ว แต่ทั้งสองฝ่ายออกมาก่อเหตุข้างนอก ซึ่งไม่เกี่ยวกับทางร้าน โดยหลังเกิดเหตุ ทางสถานบันเทิงได้เพิ่มมาตรการคุมเข้มมากขึ้น
จากการตรวจสอบภาพวงจรปิด ขณะนี้ ทางตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิดหลายตัว โดยเฉพาะจุดที่เกิดเหตุครั้งแรกคือหน้าสถานบันเทิง ซึ่งเห็นทั้งการ์ดทั้งผู้เสียหาย และกลุ่มผู้ต้องหา ยืนพูดคุยกัน โดยกลุ่มของผู้ต้องหาได้พกพาอาวุธปืนมาด้วย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ภาพวงจรปิดหน้าอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ จับภาพขณะที่ รถกระบะมิตซูบิชิของนายศศิธร นิลละออ อายุ 30 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และเป็นน้องชายของนายสำเริง นิลละออ นายก อบต.นาพละ อ.เมือง มีบาดแผลจากการถูกตีด้วยของแข็งเข้าบริเวณท้ายทอย ต้องเย็บถึง10 เข็ม ภายในสถานบันเทิง กำลังขับไปที่โรงพยาบาลตรัง เพื่อทำแผล โดยระบุวันที่ 8 สิงหาคม เวลา 01.43 น. จากนั้นห่างกันประมาณ 5 นาที รถเก๋งแคมรี่ สีดำ ได้ขับตามตามไปยังโรงพยาบาลตรัง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำ นายธนพล หรือชูชาติ ชุมเชื้อ อายุ 33 ปี ซึ่งถูกกระสุนปืนเฉี่ยวเข้าบริเวณเบ้าตาขวาแตก โดยแพทย์ได้เร่งผ่าตัดตาขวาทันที รวมทั้งสอบปากคำพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ และชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณที่รถผู้เสียหายจอดทิ้งอยู่ รวม 4-5 ปาก ยืนยันว่า คนร้ายเป็นกลุ่มนักเที่ยวจากอำเภอปะเหลียน ไม่ใช่การ์ดของสถานบันเทิง ซึ่งเป็นหัวหน้าทีม จากการตรวจสอบประวัติพบว่า มีคดีพัวพันกับยาเสพติด และเพิ่งพ้นโทษเมื่อปี2559 เบื้องต้น เจ้าหน้าที่เตรียมออกหมายจับ 1 ใน 3 ผู้ต้องหาในเช้าวันพรุ่งนี้
พี่ชายผู้บาดเจ็บจี้ ตร.เร่งจับคนร้าย
ด้าน นายสำเริง นิลลออ นายก อบต.นาพละ อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นพี่ชายของนายศศิธร กล่าวว่า น้องชายเล่าว่า ถูกคนร้ายไล่ยิง จากหน้าโรงพยาบาลตรัง หลังจากถูกตีภายในสถานบันเทิงแล้วมาทำแผล โดยเพื่อนของน้องชายเป็นคนขับรถให้ เพราะน้องชายเจ็บศีรษะ จากนั้นถูกกลุ่มคนร้ายไล่ล่ายิงตามหลังมานับจากหน้าโรงพยาบาล จนกระทั่งเพื่อนของน้องชายถูกยิงเข้าเบ้าตา ระหว่างหลบหนี เพื่อนน้องชายจึงพยายามจะเบรครถ เพื่อให้รถคนร้ายชนท้าย เพื่อตัวเองจะได้ไปต่อ แต่คนร้ายขับหลบหลีกพุ่งไปข้างหน้า แล้วย้อนกลับมา น้องชายกับเพื่อนซึ่งได้เปิดประตูรถวิ่งหนีออกมา แล้วไปซ่อนตัวที่คูระบายน้ำในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.นาพละ แล้ววิ่งเข้าป่าจนได้รับความช่วยเหลือจากพลเมืองดี น้องชายตนไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นใคร และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน โดยไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งนี้เป็นครั้งแรกการกระทำของคนร้ายอุกอาจมาก เพราะใช้อาวุธสงคราม จึงอยากเรียกร้องให้ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ขณะที่ นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า เป็นเรื่องทะเลาะวิวาทกันในวงเหล้า และผู้ก่อเหตุเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อ 9 เดือนที่ผ่านมา โดยให้ฝ่ายปกครองไปสืบประวัติมาให้แน่ชัดว่ามีอาชีพอะไร และเกี่ยวข้องกับใครบ้าง ตอนนี้รู้แล้วว่ากลุ่มคนร้ายเป็นใคร และน่าจะออกหมายจับได้แล้ว พร้อมให้สืบสวนสอบสวนโดยไม่ต้องเกรงใจผู้มีอิทธิพลกลุ่มใด