จากกรณีที่มีผู้ปกครองเด็กหญิง วัย 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าแจ้งความลูกสาวถูกครูประจำชั้นข่มขืน พร้อมใช้ปืนข่มขู่ห้ามไปบอกคนอื่น ล่าสุด สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 สรุปผลสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีมูลความผิด เตรียมส่งเรื่องให้ศึกษาธิการจังหวัดสอบวินัยร้ายแรง โดยให้ออกจากราชการไว้ก่อน เนื่องจากเป็นเหตุที่กระทบภาพลักษณ์ครู ด้านตำรวจเตรียมส่งสำนวนฟ้องภายในสัปดาห์นี้
นายชยกร วงศ์คำหาร ครูประจำชั้นนักเรียนหญิง ป.5 ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน พร้อมรับทราบข้อกล่าวหาพรากผู้เยาว์เด็กฯและข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี หลังผู้ปกครองของเด็กนักเรียนหญิง อายุ 11 ปี แจ้งความว่าถูกข่มขื่นจนสำเร็จความใคร่ พร้อมลักพาตัวและใช้อาวุธปืนข่มขู่ห้ามนำเรื่องไปบอกใคร เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ กระทั่ง นายภูมิพัธ เรืองแหล่ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์เขต 2 หรือ ผอ.สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และสั่งย้ายครูประจำชั้นเข้ามาช่วยราชการยังสำนักงาน สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 อย่างไม่มีกำหนด พร้อมมอบหมายให้นายประเสริฐ ต้นสีนนท์ รอง ผอ.สพป.เขต 2 พร้อมเจ้าหน้าที่นิติกรนำเอกสารผลสรุปการสอบข้อเท็จจริงกรณีนายชยกร ยื่นให้กับ นายกิตติพศ พลพิลา ศึกษาธิการจังหวัดกาฬสินธุ์ เบื้องต้นผลการสอบของคณะกรรมการพบว่ามีมูลความผิด และเสนอเรื่องให้ศึกษาธิการจังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง
ด้าน นายกิตติพศ พลพิลา ศึกษาธิการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องและรายงานจาก สพป.กาฬสินธุ์ เขต2 แล้ว และตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายชยกร ทันทีในวันนี้ เนื่องจากผลสรุปของคณะกรรมการ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ออกมาชัดเจนว่ามีมูลความผิด และเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรง ทั้งนี้ระหว่างการสอบวินัยร้ายแรง หากพบบุคคลที่ถูกสอบวินัยร้ายแรงเสี่ยงที่จะกระทำความผิดซ้ำ หรือเป็นอุปสรรคในการดำเนินการตรวจสอบ ก็จะพิจารณาออกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน หรือพักราชการทันที
สำหรับเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น ถือว่ากระทบต่อความรู้สึกของสังคม ผู้ปกครอง ตัวเด็กนักเรียนเอง อีกทั้งยังกระทบต่อภาพลักษณ์ครู ผู้ที่ได้รับการยกย่องเป็นแม่พิมพ์ของชาติอย่างยิ่งอีกด้วย เพราะการที่ผู้ปกครองไว้วางใจส่งบุตรหลานเข้ามาศึกษาในโรงเรียน แต่เด็กกลับมาประสบกับภาวะที่ไม่พึงประสงค์ และยังเป็นครูประจำชั้นที่ดูแลปกครองเด็ก จึงเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ผิดจรรยาบรรณ ดังนั้นหากผลการสอบวินัยร้ายแรงพบว่ามีการกระทำผิดจริง ก็จะมีความผิดทางวินัยโทษสูงสุดคือไล่ออก และปลดออก อย่างไรก็ตาม หากผลการสอบไม่พบความผิดก็สามารถกลับเข้ามารับราชการ และทำหน้าที่ครูได้ต่อไป