ชาวบ้านในพื้นที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ แห่รุมประชาทัณฑ์หนุ่มใหญ่ชาวลำพูนฆ่าแม่ค้าลอตเตอรี่หมกสวนลำไย จนตำรวจต้องยกเลิกหวั่นโดนรุมน่วม ประวัติผู้ต้องหาเคยถูกจำคุกข้อหาลักทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้ง สารภาพทั้งน้ำตา ลวงฆ่าชิงทรัพย์หาเงินใช้หนี้พนัน
ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา (4 พ.ค.60) เจ้าหน้าที่ สภ.จอมทอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ควบคุมตัว นายจันทร์ทิพย์ กันทะวงค์ อายุ 51 ปี ภูมิลำเนา อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ผู้ต้องหา “ฆ่าผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” หลังลงมือฆ่า น.ส.ธนาวรรณ เปอะปันสุข อายุ 40 ปี ชาว ต.ข่วงเปา อ.จอมทอง อาชีพแม่ค้าขายลอตเตอรี่บริเวณหน้าวัดพระธาตุศรีจอมทอง มาทำแผนภายในสวนลำไย บ้านสันตึง หมู่ที่ 8 ต.ข่วงเปา อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 50 เมตร เหตุเกิดเมื่อช่วงช่วงเช้ามืดของวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เตรียมนำผู้ต้องหามาทำแผนแต่เช้ามืด เพื่อหลีกเลี่ยงญาติ และชาวบ้านในพื้นที่ ที่โกรธแค้นผู้ต้องหา และได้เตรียมรถจักรยานยนต์ของกลางมาจอดไว้ที่สวนลำไยเพื่อพร้อมในการทำแผน แต่ปรากฏว่ามีชาวบ้านบางส่วนทราบข่าวและเดินทางมายังจุดที่ทำแผนกว่า 100 คน พร้อมกับตะโกนสาปแช่งด่าผู้ต้องหาอย่างรุนแรง ขณะที่ชาวบ้านบางสวนได้พยายามจะเข้ามาทำร้ายผู้ต้องหาจนเจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาป้องกัน และรีบนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถยนต์กลับไปยังโรงพักทันทีเพราะเกรงว่าจะถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์
สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเช้ามืดวันที่ 2 พ.ค. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบศพหญิงวัยกลางคนถูกฆ่านอนเสียชีวิตอยู่ภายในสวนลำไย ตรวจสอบสภาพศพพบว่า บริเวณลำคอถูกรัดด้วยสายรัดแบบยางยืด ตามร่างกายพบร่องรอยมีแผลลึกลงไปคล้ายกับโดนทุบด้วยของแข็ง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง ใกล้กับจุดเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟไอ สีแดง หมายเลขทะเบียน จรว 10 เชียงใหม่ ซึ่งเป็นของผู้เสียชีวิตจอดอยู่ รวมทั้งโทรศัพท์ของผู้ตายที่ผู้ต้องหานำไปโยนทิ้งน้ำ แต่โชคดีโทรศัพท์ไปติดอยู่กับต้นไม้ไม่จมลงไปในน้ำ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบและแกะรอยจนพบหมายเลขสุดท้ายที่โทรหาผู้ตาย คือหมายเลขของ นายจันทร์ทิพย์ กันทะวงค์ อายุ 51 ปี
ซึ่งสอดคล้องกับพ่อสามีของผู้เสียชีวิตที่ให้การว่า วันเกิดเหตุลูกสะใภ้ออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้ามืดเพื่อไปขายลอตเตอรี่ตามปกติ ขณะที่เพื่อนของผู้ตายก็บอกว่า มีคนโทรศัพท์มาสั่งซื้อลอตเตอรี่เธอขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากนั้นทางบ้านก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
เจ้าหน้าที่จึงติดตามตัวนายจันทร์ทิพย์มาสอบปากคำ และหลังใช้เวลาสอบสวนไม่นานนายจันทร์ทิพย์ ก็จำนนต่อหลักฐานจึงยอมรับสารภาพทั้งน้ำตา ว่าได้ลงมือก่อเหตุจริง เพราะเป็นหนี้พนันและนำรถไปจำนำ จึงวางแผนลวงฆ่าชิงทรัพย์โดยได้โทรศัพท์ให้ผู้เสียชีวิตซึ่งรู้จักกันได้ 3 เดือนนำล๊อตเตอรี่มาส่งภายในสวนลำไยจุดเกิดเหตุ ก่อนจะลงมือฆ่าด้วยการใช้ค้อนทุบไปที่ศีรษะ 3 ครั้ง และใช้สายรัดของแบบยางยืด รัดคอผู้ตายซ้ำ จากนั้นนำกระเป๋าคาดเอวของผู้เสียชีวิตซึ่งมีเงินสด 6 หมื่นบาท หลบหนีไปยังบ้านพักใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน นอกจากนั้น นายจันทร์ทิพย์ เคยถูกจำคุกในข้อหาลักทรัพย์มาแล้วถึง 2 ครั้งเหตุเกิดในท้องที่ จ.ลำพูน