ดีเอสไอ แถลงความคืบหน้าการออกหมายเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหากรณีลักลอบนำเข้าและหลีกเลี่ยงการชำระภาษีศุลกากร รถหรู ทำรัฐเสียหายกว่า 4,300 ล้านบาท
พันตำรวจเอกกรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ดีเอสไอ เข้าตรวจค้นตามหมายค้นศาลอาญา เมื่อวันที่ 18 และ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และสามารถอายัดรถยนต์หรู ไว้เพื่อตรวจสอบจำนวน 160 คัน มีทั้ง ลัมโบร์กินี, โรสลอยด์, แมคคาเรน, โลตัส และขอให้กรมศุลกากร ประเมินราคารถยนต์เบื้องต้น ตามเอกสารหลักฐานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ
กระทั่งกรมศุลกากร จัดส่งข้อมูลบัญชีรายละเอียดภาษีอากรขาดกลับมายัง ดีเอสไอ จำนวน 32 คัน พบว่ามีมูลค่าภาษีอากรขาดรวมประมาณ 673 ล้านบาท และดีเอสไอได้เรียกกลุ่มผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 3 กลุ่มบริษัท ผู้ต้องหารวม 16 คน
ต่อมา กรมศุลกากร ได้จัดส่งข้อมูลบัญชีรายละเอียดภาษีอากรขาดกลับมายังดีเอสไอเพิ่มเติมเ ครั้งที่ 2 จำนวน 91 คัน พบว่ามีมูลค่าภาษีอากรขาด รวมประมาณ 1,165 ล้านบาท รวมมูลค่าภาษีอากรขาดทั้งสิ้น 1,838 ล้านบาท ซึ่งกรณีนี้ อยู่ระหว่างเรียกกลุ่มผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา2 บริษัท ผู้ต้องหารวม16 คน
และล่าสุด กรมศุลกากร ได้จัดส่งข้อมูลบัญชีรายละเอียดภาษีอากรขาด กลับมายังดีเอสไออีกเป็นครั้งที่ 3 จำนวน 136 คัน พบว่ามีมูลค่าภาษีอากรขาดรวมประมาณ 2,473 ล้านบาท
รวมจำนวนรถยนต์ที่กรมศุลกากร จัดส่งข้อมูลบัญชีรายละเอียดภาษีอากรขาดกลับมายังดีเอสไอ ทั้งสิ้น 259 คัน คิดเป็นมูลค่าภาษีอากรขาด ทั้งสิ้น 4,313 ล้านบาท