ตำรวจคุมผู้ต้องหารุมทำร้ายลุงขับรถกะป๊อเสียชีวิต ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 4 จุด ขณะชาวบ้านตะโกนด่าขอให้ประหารชีวิต จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังศาลทันที
การทำแผนประกอบคำรับสารภาพมีขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจ สน.โชคชัย คุมตัว นายสุรเชษฐ โพธิ์จาด , นายอาทิตย์ สอนดอนไพร ผู้ต้องหารุมทำร้ายร่างกาย นายสัจจา ปราศรัย อายุ 63 ปี อาชีพขับรถกะป๊อรับจ้างอยู่ในซอยลาดพร้าว-วังหิน โดยใช้เท้าเหยียบที่ศีรษะหลายครั้ง ส่งผลให้ นายสัจจา เสียชีวิต และยังมีผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือ นายสัจจา ได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งนายอาทิตย์ ให้การรับสารภาพอ้าง ว่าโมโหที่รถกะป๊อมาเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ และก่อเหตุเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
ขณะที่นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเสื้อเกราะ และหมวกกันน็อกให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายสวมใส่ รวมทั้งจัดวางกำลัง และเลือกช่วงเวลาเช้าตรู่ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้บรรดาไทยมุงมาทำร้ายผู้ต้องหาได้ ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 ราย คือ นายอำพล คลังทอง และ นายณรงค์ชัย รักล้วน ให้การปฏิเสธและไม่สมัครใจในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วย
โดยการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในครั้งนี้มีด้วยกัน 7 จุด จุดแรกเป็นบริเวณกลางซอยโชคชัยสี่ ซอย 36 ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาและผู้ตายขับรถสวนทางกัน โดยทั้งสองฝ่ายไม่ยอมหลีกทางให้กันจนมีปากเสียงกัน จุดที่ 2 บริเวณซอยโชคชัย 4 ซอย 36 แยก 1 เป็นจุดที่ผู้ต้องหาขับขี่รถจยย.ไล่ติดตามรถผู้ตายจนมาถึงจุดดังกล่าว แล้วผู้ตายได้จอดรถ ก่อนถอยหลังชนรถผู้ต้องหาจนล้มลง จุดที่ 3 ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาทิ้งรถ จักรยานยนต์แล้ววิ่งไปดูว่า ผู้ตายขับรถหนีไปเส้นทางใดก่อนขับขี่รถ จยย. ไล่ติดตามไป
จุดที่ 4 ภายในลานจอดรถ พงษ์สุขอพาร์ทเม้นท์ เมื่อผู้ต้องหาพบว่าผู้ตายยังไม่ไปไหน จึงวิ่งไล่เข้าไปชกต่อยจนล้มลง พร้อมทั้งรุมกระทืบผู้ตายจนหมดสติ จุดที่ 5 ภายในลานจอดรถ ผู้ต้องหาวิ่งไปที่รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ จากนั้นได้ ขี่มายังจุดที่ผู้ตายหมดสติ ก่อนลงมากระทืบซ้ำอีกครั้งจนเสียชีวิต จุดที่ 6 ภายในอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าว ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายกระโดดถีบกระจกของประตูทางเข้า จนแตก และจุดสุดท้าย บริเวณชั้น 2 ของตัวอาคาร ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหารุมกระทืบ รปภ.ที่ดูแลอาคารที่พยายามช่วยผู้ตาย จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนผู้ต้องหาพากันหลบหนีไป
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก็มีบรรดาไทยมุงบางส่วนตะโกนด่าทอ พร้อมทั้งสาปแช่งให้นำตัวคนร้ายไปประหารชีวิตให้หมด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายสุรเชษฐ และ นายอาทิตย์ กลับมาที่ สน.โชคชัย เพื่อมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ก่อนนำตัวส่งศาลอาญารัชดาฯ เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป