เกิดเหตุการณ์พบศพหญิงสาว สภาพนอนคว่ำหน้าอยู่ในป่ารกทึบที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 เดือน เพราะเนื้อ-ผิวหนังของศพ แห้งติดกระดูกและอืดจนไม่สามารถระบุเพศและรูปพรรณสันฐานของผู้ตายได้
ความคืบหน้าของเรื่องนี้ พ.ต.อ.วาชรัตน์ มูลวงษ์ ผกก.สภ.สำรอง ที่เพิ่งมาปฏิบัติราชการได้เพียงแค่สิบกว่าวันมีงานใหญ่ให้เริ่มทำทันที ได้บอกเหตุการณ์ ว่า ผู้ตายชื่อ นางอรอลิสา จังธนสมบัต อายุ 44 ปี มีสติไม่สมประกอบ หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2560 ทั้งนี้ ญาติของผู้ตายก็ได้มาแจ้งความคนหายกับตำรวจแต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ยังไม่พบตัว นางอรอลิสา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมาก็มีชาวบ้านพบศพถูกทิ้งไว้ในป่ารกทึบ และตรวจสอบก็เลยรู้ว่าศพดังกล่าวคือนางอรอลิสา ที่หายตัวไป ส่วนสาเหตุการตายตำรวจสันนิษฐาน 2 เรื่อง คือ การฆ่าตัวตายเพราะใกล้กันกับศพ นางอรอลิสา ตำรวจพิสูจน์หลักฐานพบยาระงับอาการประสาทถูกแกะกินไป 12 เม็ด ส่วนอีกประเด็นคือปมความขัดแย้งในครอบครัว เพราะผู้ตายอยู่ในระหว่างตกลงทรัพย์สมบัติกับญาติสามีที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ ส่วนผลการชันสูตรศพเบื้องต้นตำรวจไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย และไม่มีร่องรอยการข่มขืน แม้ว่าร่างผู้ตายจะถูกถลกเสื้อขึ้นมาบริเวณหน้าอก และกางเกงถูกดึงลงมาอยู่ที่เท้าก็ตาม
คลิปสัมภาษณ์ พ.ต.อ.วาชรัตน์ มูลวงษ์ ผกก.สภ.สำรอง
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยพาไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจาก สภ.ประมาณ 5 กิโลเมตร และได้ไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ให้ฟังว่าผู้ตายนอนคว่ำหน้าอยู่ริมหนองน้ำ และปากทางเข้าป่าแห่งนี้มีรองเท้าผู้ตายถอดอยู่โดยหัวรองเท้าหันหน้าออกไปที่ถนน จึงทำให้คนในละแวกนี้ตั้งข้อสังเกตว่า นางอรอลิสา อาจจะถูกทำร้ายและนำศพมาอำพรางในป่าแห่งนี้ ส่วนสาเหตุที่เจอศพเพราะนางอรอลิสา ไปเข้าสิงคนในชุมชนว่าตนตายอยู่ตรงนี้และให้มาพาออกไป ฟังเสียงเจ้าหน้าที่กู้ภัยกันครับ
เช่นเดียวกับแม่ของนางอรอลิสา ที่มั่นใจว่า ลูกสาวถูกจัดฉากให้เสียชีวิตบริเวณนี้ เพราะใครจะเข้ามานั่งกินยาฆ่าตัวตายในป่ารกทึบขนาดนี้ อีกทั้งลูกของตนก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาฆ่าตัวตายตามสามีของเธอ แต่ก็ยอมรับว่าผู้ตายมักมีปากเสียงกับฝั่งญาติของสามี ในเรื่องของการตกลงมรดกของสามีเธอ จึงทำให้สงสัยว่า หรือการตายของลูกสาวจะมาจากปัญหาของครอบครัวฝั่งสามีเธอ ส่วนประเด็นการมีสติไม่สมประกอบของนางอรอลิสานั้นยอมรับว่า เป็ปนผู้ตายป่วยทางจิตจริง แต่ปัจจุบันก็ได้รับการรักษาและก็สามารถทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตามแม่ของนางอรอลิสา ก็ยังคงต้องรอผลตการชันสูตรศพจากสถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสรุปว่าแท้จริงแล้วลูกของเธอตายเพราะถูกฆ่าหรือฆ่าตัวตาย