พระลูกวัดกำแพงมณี อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เข้าแจ้งความหลังถูกมิจฉาชีพนำบัตรประชาชนที่เคยแจ้งหายไปขึ้นลอตเตอรี่ปลอม
ที่ สภ.วิเศษชัยชาญ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ได้มี พระสำเริง เนตรขยาย อายุ 53 ปี พระลูกวัดกำแพงมณี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.วินัย ตรีราภี รอง ผกก.สภ.วิเศษชัยชาญ หลังถูกมิจฉาชีพนำบัตรประชาชนที่เคยแจ้งหาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 20 สค 2557นำไปใช้ขึ้นเงินสดจากการนำลอตเตอรี่ที่ถูกแก้ไขเลขไปขึ้นรางวัลตามที่ต่าง ๆ หลายจังหวัดเบื้องต้นตอนนี้ถูกหมายเรียกจาก สภ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ในข้อหาปลอมเอกสาร (เมื่อวันที่ 4 พ.ย.59)จาก สภ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ข้อหาฉ้อโกง (เมื่อวันที่ 29 พ.ย.9 และวันที่ 30 ธ.ค.59) และสุดท้ายที่พื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด รวม 4 ฉบับ เป็นเงินที่มิจฉาชีพนำลอตเตอรี่ปลอมไปขึ้นเงินกว่า 100,000 บาท
พระสำเริง กล่าวว่า อาตมาได้ทำบัตรประชาชนเก่าหาย แล้วได้แจ้งความบัตรประชาชนหายที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 20 ส.ค.57 ต่อมาอาตมาได้มาบวชเป็นพระภิกษุที่วัดกำแพงมณี ต.ห้วยคันแหลน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง จนมีหมายเรียกจาก สภ.ต่าง ๆ ให้มารับข้อกล่าวหาซึ่งอาตมาถึงกับมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งมิจฉาชีพได้นำบัตรประชาชนที่เคยแจ้งหายไปขึ้นเงินโดยนำบัตรประชาชนที่แจ้งหายไว้พร้อมด้วยลอตเตอรี่ที่ถูกแก้ไขตัวเลขไปขึ้นเงินตามจังหวัดต่าง ๆ พร้อมฝากเตือนพ่อค้าแม่ค้าที่รับขึ้นเงินที่ถูกล๊อตเตอรี่ให้ตรวจสอบให้ดีก่อนว่าล๊อตเตอรี่ถูกแก้ไขตัวเลขหรือไม่ และบัตรประชาชนที่ไปยื่นเป็นคนเดียวกับในบัตรประชาชนหรือเปล่า
ทางด้าน พ.ต.ท.วินัย กล่าวว่า มิจฉาชีพที่นำลอตเตอรี่ปลอมไปขึ้นเงินน่าจะทำเป็นขบวนการ เพราะเท่าที่ดูเห็นว่าแก๊งนี้จะหากินทางภาคอีสาน และภาคเหนือโดยจะเลือกพ่อค้าแม่ค้าลอตเตอรี่ที่มีอายุหน่อย เพื่อจะได้ตบตาได้ง่าย เบื้องต้นเนื่องจากเหตุเกิดในท้องที่อื่นจึงแจ้งให้ พระสำเริง ติดต่อกับท้องที่ที่เกิดเหตุว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป