เปิดภาพสเก็ตช์ผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องเหตุวางระเบิดโรงพยาบาลพระมง กุฏเกล้าแล้วแต่ยังไม่สมบูรณ์นัก ขณะที่ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายยังคงหลบหนีอยู่ในประเทศ เร่งตรวจสอบ “โก๋ตี๋” เอี่ยวด้วยหรือไม่
นี่คือภาพสเก็ตช์ผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดภายในโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ซึ่งถูกนำมาเผยแพร่ในกลุ่มผู้สื่อข่าวประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยอ้างว่าเป็นภาพสเก็ตช์ที่ได้จากการสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บในวันเกิดเหตุ แต่ยังไม่สมบูรณ์ จึงยังไม่มีการเผยแพร่อย่างเป็นทางการ
โดยพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ภายหลังการเรียกประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดีว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่าบุคคลที่อยู่ในภาพจะใช่ผู้ก่อเหตุลอบวางระเบิดทั้งที่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า โรงละครแห่งชาติ และที่หน้ากองสลากเก่าหรือไม่ แต่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุทั้ง 3 จุดมีความเชื่่อมโยงกัน และยังคงหลบหนีอยู่ในไทย
ส่วนกรณีการส่งจดหมายข่มขู่ลอบวางระเบิดตามโรงพยาบาลต่างๆ นั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ผู้ส่งจดหมายใช้ชื่อและนามสกุลปลอม ไม่พบในสารบบทะเบียนราษฎร์ ส่วนการสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุตอนนี้ทำไปแล้ว 61 ปาก มี 4-5 ปากให้การเป็นประโยชน์ และจะเร่งสอบพยานที่เหลืออีก 20 รายให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เมื่อทำเสร็จแล้วคาดว่าจะได้เบาะแสของคนร้ายมากขึ้น
สำหรับกระแสข่าวที่อ้างว่าแม่ทัพภาคที่ 1 มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้วนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยืนยันว่า ยังไม่ได้รับการประสานงานจากแม่ทัพภาคที่ 1 เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งอาจเป็นการข่าวของทางแม่ทัพภาคที่ 1 เอง ในส่วนของตำรวจขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลกลุ่มใด แต่เชื่อว่าคนร้ายไม่น่าจะลงมือเพียงคนเดียว ซึ่งชุดคลี่คลายคดีอยู่ระหว่างการจำลอง เหตุการณ์ว่า ผู้ก่อเหตุ จะเดินทางเข้าออกโรงพยาบาลช่องทางใด หรือจะเดินทางมาด้วยรถประเภทไหน ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าคนร้ายจะเดินทางมาดูจุดก่อเหตุก่อนหรือไม่ เพราะจุดเกิดเหตุเป็นสถานที่เปิด ใครก็สามารถเดินทางผ่านเข้าออกได้
ด้านพลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่า ผู้ก่อเหตุมีทั้งคนในและคนนอกประเทศนั้น เชื่อว่าเป็นการพูดในภาพรวม แต่โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนในประเทศ แต่ยังไม่สามารถสรุปถึงความเชื่อมโยงกับบุคคลที่อยู่ต่างประเทศได้ เป็นเพียงผู้ต้องสงสัยเท่านั้น
ส่วนจะเกี่ยวข้องกับ นาย วุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ หรือไม่ ยังไม่สามารถสรุปได้ขณะนี้ มีเพียงผู้ต้องสงสัยเท่านั้น แต่ยอมรับว่า เป็นหนึ่งในกลุ่ม Hard Core ที่อยู่ระหว่างการประสานกับทางการลาวในการจับกุม เพราะถือเป็นผู้หลบหนีคดีตามหมายจับ
ผู้บัญชาการทหารบก ยืนยันด้วยว่า การก่อเหตุครั้งนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับคนมีสีหรือไม่ เช่นเดียวกับกรณีความเกี่ยวพันกับเหตุรุนแรงใน3จังหวัดภาคใต้ก็เป็นเพียงการวิเคราะห์จากการประกอบวัตถุระเบิดในการใช้ก่อเหตุ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกันเท่านั้น แต่ยืนยันว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าไม่เกี่ยวข้องกับบทบาทการปฏิบัติหน้าที่ของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมตามที่มีกระแสข่าวว่ามีการลดบทบาทการทำงาน โดยก่อนหน้านี้ พลเอกประวิตร ลาป่วย และล่าสุดกลับมาปฏิบัติหน้าที่แล้ว