เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรบางแก้ว จับกุมอดีตตำรวจยศนายดาบ กรรโชกทรัพย์วิศวกรชาวอินเดีย โดยให้การรับสารภาพอ้างว่าเงินไม่พอใช้ แถมเคยมีประวัติชิงทรัพย์ชาวจีนซึ่งยังอยู่ในระหว่างการประกันตัว
อาวุธปืนขนาด 9 มม.พร้อมเครื่องกระสุน 27 นัด รถเก๋งโตโยต้า วีออส สีน้ำตาล ทะเบียน 1กฐ-6945 กทม. , เงินสด 2,000 บาท ธนบัตรอินเดียจำนวน 190 รูปี และเครื่องแบบตำรวจยศดาบตำรวจ 1 ชุด เป็นของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจ 191 และฝ่ายสืบสวน สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ จับกุมตัว นายสมมาศ บุญเย็น อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 เม.ย.61 เวลาประมาณ 18.30 น. นายธาจูดีน ปูวันชีริ (Mr.THAJUDHEEN POOVANCHEERI) อายุ 27 ปี วิศวกรเครื่องบินของสายการบินจินแอร์ สัญชาติอินเดีย เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่าถูกกรรโชกทรัพย์บริเวณหน้าโรงแรมแกรนด์อิรนคำ ถ.กิ่งแก้ว อ.บางพลี โดยเหตุเกิดหลังจากผู้เสียหายไปนั่งรับประทานอาหารตรงข้ามที่พัก ถูกคนร้ายเป็นชายไทยแต่งกายคล้ายตำรวจยศนายดาบ เรียกตรวจหนังสือเดินทางและทำการรื้อค้นกระเป๋าเงิน นำบัตรเครดิต เงินสด และโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไป จากนั้นทางตำรวจท่องเที่ยวร่วมกับฝ่ายสืบสวน สภ.บางแก้ว จึงร่วมกันตรวจสอบจนทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายสมมาศ บุญเย็น อดีตตำรวจสังกัดนครบาลแห่งหนึ่ง เคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันในท้องที่ สน.บางนา เมื่อวันที่ 1 มี.ค.61 จึงนำภาพให้ผู้เสียหาย ดู ก็ยืนยันว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน ทางตำรวจจึงเข้าจับกุมได้ที่ปากซอยเฉลิมพระเกียรติ 30 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นอดีตตำรวจ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกจับดำเนินคดีและถูกให้ออกจากราชการเมื่อวันที่ 7 มี.ค.61 ที่ผ่านมา ในข้อหาชิงทรัพย์ชาวจีน ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างประกันตัวในคดีของสน.บางนา ด้วย โดยมีพฤติกรรมสวมเครื่องแบบตำรวจขอตรวจค้นชาวต่างชาติ และทำการยึดทรัพย์ จากผู้เสียหายโดยที่เลือกก่อเหตุกับชาวต่างชาติเพราะมีเวลาอยู่เมืองไทยน้อย เบื้องต้นให้การรับสารภาพ ว่านำเงินไปใช้จ่ายทั่วไปเพราะเงินไม่พอใช้
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา กรรโชกทรัพย์ แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงาน และมีอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป