อดใจไม่ไหว หนุ่มบุกเดี่ยวทำทีเป็นซื้อทอง ก่อนชกทองนำหนัก 5 บาท มูลค่ากว่า 2 แสน หนีหาย สุดท้ายไม่รอดโดนรวบกลางปั้ม ยังอ้างเป็นทองตัวเอง
จากกรณีช่วงเย็นของวันที่ 15 เมษายน 67 ที่ผ่านมา มีคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อลายดอกสีขาวน้ำเงิน สวมกางเกงขาสั้นสีขาว ก่อเหตุวิงราวสร้อยคอทองคำนำหนัก 5 บาท จำนวนหนึ่งเส้น มูลค่าประมาณ 2 แสนบาท โดยทำทีเป็นลูกค้าไปขอซื้อทองและเลือกสร้อยคอทองคำ อาศัยช่วงจังหวะที่พนักงานหันไปหยิบกระจกเพื่อจะให้คนร้ายรายนี้ดู คนร้ายจึงฉวยโอกาสคว้าสร้อยคอทองคำวิ่งหลบหนีไป

ต่อมา พล.ต.ต. วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ สั่งการให้ทางด้าน พ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว เป็นหัวทีมจัดชุดสืบสวนของสภ.บางแก้ว นำโดย พ.ต.ท.ชาญวุฒิ เทียมมงคล รอง ผกก.สส.สภ.บางแก้ว พ.ต.ต.วสันต์ วงศ์เรือง สว.สส.สภ.บางแก้ว พร้อมชุดสืบสวน สภ.บางแก้ว.กระจายกำลังออกไล่ล่าตัวคนร้ายรายนี้
โดยภาพจากกล้องวงจรปิดเส้นทางของคนร้ายรายนี้ หลังก่อเหตุพบว่าใช้เดินเท้าหลบหนีออกด้านหลังห้างสรรพสินค้าก่อนจะขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างหลบหนีใช้เส้นทางมุ่งหน้าออกมหาลัยราม 2 ฝ่ายสืบสวนอีกชุดจึงไปไล่ตรวจสอบเส้นทางผู้ต้องหารายนี้ก่อนลงมือก่อเหตุ จนพบว่าชายต้องสงสัยรายนี้พักอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านเมืองสมุทรปราการ
เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนจนทราบชื่อผู้ต้องสงสัยรายนี้ และใช้แนวทางเทคนิคในการสืบสวนจนไปพบผู้ต้องสงสัยรายนี้ นั่งอยู่ในปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนสุขุมวิท ในพื้นที่ของเมืองสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมตัว

ซึ่งจากการตรวจสอบไปพบของกลางเป็นสร้อยคอทองคำที่ก่อเหตุมา ซุกซ่อนในกระเป๋า โดยใช้เวลาราว 6 ชม. ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ ก็คือ นายปฏิภาณ แสนกล้า อายุ 28 ปี ชาว อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ตอนแรกเจ้าตัวยังให้การปฎิเสธเสียงแข็ง บอกว่าไม่ได้ไปก่อเหตุมา ทองที่เห็นตนเองซื้อมาได้สองปีกว่าแล้ว
อย่างไรก็ตามจากพยานหลังฐานรวมถึงเสื้อผ้าที่สวมใส่ตรงตามที่คนร้ายไปก่อเหตุ ตำรวจจึงคุมตัวมาสอบเพิ่มที่ สภ.บางแก้ว พร้อมเชิญผู้เสียหาย ซึ่งเป็นพนักงานร้านทองมาชี้ยืนยันตัว ทั้งผู้ต้องหาและสร้อยคอทองคำของกลาง ซึ่งพนักงานและพยานระบุตัวตนคือผู้ต้องหารายนี้ ตำรวจจึงทำการบันทึกจับกุม พร้อมแจ้งสิทธิ์ และแจ้งข้อหา
- วิ่งราวทรัพย์
- ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่