ศาลยกฟ้อง ‘หญิงไก่’ คดีค้ามนุษย์ เจ้าตัวร่ำไห้-ก้มกราบศาล

 

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง “หญิงไก่” คดีค้ามนุษย์ ชี้จำเลยมีพฤติกรรมไม่ครบองค์ประกอบความผิด ตาม พ.ร.บ.การค้ามนุษย์ หลังคำพิพากษาเจ้าตัวร่ำไห้ก้มกราบศาล

วันนี้ ( 12 ก.พ.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้เบิกตัว นางมณตา หรือ หญิงไก่ หยกรัตนกาญ จากทัณฑสถานหญิงกลางบางเขน มายังศาลอาญา เพื่อฟังศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีดำ อ.คม76/2559 ที่พนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ 2 เป็นโจทก์ฟ้อง นางมณตา หรือ หญิงไก่ หยกรัตนกาญ เป็นจำเลยในความผิดฐานค้ามนุษย์ ที่ห้องพิจารณา 708 ในเวลา 10.00 น.

จากกรณีเมื่อต้นเดือน มิ.ย.49 – ต.ค.53 ต่อเนื่องกัน จำเลยได้บังคับ น.ส.ดาลิน หล้าคำ ให้มาทำงานเป็นแม่บ้านให้จำเลย ตั้งแต่ 05.00 – 22.00 น.ทุกวันโดยไม่มีวันหยุด และระหว่างเดือน พ.ค.51- เม.ย.52 จำเลยได้ฉ้อฉล หลอกลวง น.ส.กาญจนา ปองลาภสุนทร ผู้เสียหายชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยบังคับขืนใจทำงานเป็นแม่บ้านให้จำเลย ที่ ประชานิเวศน์คอนโด แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาไปเมื่อ 19 ต.ค. 60 เห็นว่า สำหรับผู้เสียหายที่ 1 และ 3 พยานหลักฐานยังรับฟังไม่ได้ว่า จำเลยมีพฤติการณ์ข่มขู่ หรือเข้าข่ายความผิดตามฟ้อง เนื่องจากไม่มีการยึดบัตรประชาชน และการทำงานเป็นไปด้วยความสมัครใจ เเละยังไม่มีพยานหลักฐานพิสูจน์ว่าผู้เสียหายต้องทำงานต่อเนื่องตั้งแต่ 05.00 น. ถึง 22.00 น. จริง ส่วนประเด็นที่อ้างว่าจำเลยข่มขู่บิดาของผู้เสียหายที่ 3 ว่า หากลูกสาวไม่ยอมทำงานต่อ จะดำเนินคดีกับบิดาและมารดา ในประเด็นนี้ก็ไม่มีหลักฐานแน่ชัด จึงยังรับฟังไม่ได้ว่าเป็นการข่มขู่เพื่อแสวงหาจากการบังคับใช้แรงงาน
เเต่ในส่วนผู้เสียหายที่ 2 พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบรับฟังได้ว่า จำเลยได้ยึดบัตรประชาชน จำเลยที่2 มาเก็บไว้ และจำเลยไม่จ่ายค่าจ้างเดือนละ 6,000 บาท ตามที่ตกลงกันไว้ เเละยังไม่ส่งผู้เสียหายที่2ให้เรียนพยาบาลตามที่เคยมีการตกลงกันไว้ซึ่งพิจารณาเเล้วถึง แม้งานดังกล่าวจะไม่หนักมาก ผู้เสียหายเพียงคนเดียว ย่อมสามารถกระทำได้ แต่การยึดบัตรประชาชนไว้ จำเลยมีเจตนาหาประโยชน์โดยมิชอบจากการใช้แรงงาน จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ พิพากษาจำคุก 4 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีจึงลดโทษให้ 1 ใน 4 เหลือจำคุก 3 ปี และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เสียหายที่ 2 เป็นเงิน 590,007 บาท

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้วเห็นว่า คดีนี้โจทย์ฟ้องจำเลยฐานค้ามนุษย์ โดยบังคับใช้แรงงาน ตาม พ.ร.บ. ป้องตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 6 ต้องเป็นการกระทำเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เป็นธุระจัดหากักขังหน่วงเหนี่ยว โดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ หรือโดยให้เงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่นแก่ผู้ปกครอง หรือบุคคลนั้น

แต่คดีนี้ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยจัดให้ผู้เสียหายที่ 2 ซึ่งเป็นเด็ก พักอาศัยในคอนโดประชานิเวศน์ ให้ทำงานบ้าน ซึ่งนอกจากผู้เสียหายที่ 2 แล้ว ยังมีผู้เสียหายที่ 1 และ 3 ทำงานบ้านเช่นเดียวกัน ทั้ง 3 แบ่งหน้าที่กันทำ ช่วยดูแลจำเลยกับบุตรเพียงสองคนเท่านั้น เชื่อว่างานที่ผู้เสียหายทำไม่หนักมาก และยังได้ความจากผู้เสียหายที่ 2 ว่า จำเลยได้ให้เงินครั้งละ 1 พันบาท ให้โทรศัพท์ ให้ค่าเดินทางกลับบ้าน 2 พันบาท และโอนเงินให้อีก 5 พันบาท พาไปเที่ยวต่างจังหวัดบางครั้ง อีกทั้งเวลาว่างสามารถออกไปซื้อของข้างนอกได้ แสดงว่าผู้เสียหายที่ 2 มีอิสระ ไม่ได้ถูกกักขัง

แม้จะปรากฏว่าจำเลยชวนผู้เสียหายที่ 2 มาทำงาน จำเลยอ้างว่าจะส่งเสียให้เรียนพยาบาล กลับมอบเงินให้บิดามารดา 5 พันบาท จนยินยอมให้พาผู้เสียหายไปทำงาน แต่เมื่อไปแล้วกลับไม่ส่งเสียให้เรียน และไม่จ่ายค่าจ้าง รวมทั้งนำบัตรประชาชนมาเก็บไว้ก็ตาม

แต่ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏจากการนำสืบว่าระหว่างที่ผู้เสียหายทำงานกับจำเลยนั้น จำเลยได้กระทำการใด อันเป็นการข่มขืนใจให้ผู้เสียหายทำงาน โดยทำให้ผู้เสียหายจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน หรือขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย หรือทำให้ผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้แต่อย่างใด

กับได้ความจากผู้เสียหายที่ 2 เองว่า จำเลยเป็นคนโมโหง่าย แต่ไม่เคยบังคับข่มขู่ให้ทำงาน ข้อเท็จจริงที่โจทย์นำสืบมายังฟังไม่ได้ว่าเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ โดยการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ การกระทำของจำเลยจึงไม่ ครบองค์ประกอบ การกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 6 (2)

ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์แผนกคดีค้ามนุษย์ ไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น สำหรับคดี ส่วนแพ่ง เมื่อฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิด จึงเลยจึงไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้เสียหายที่ 2 ศาลพิพากษากลับยก ฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษา นางมณตา ร้องไห้ด้วยความดีใจ ก่อนทรุดลงกับพื้นและก้มลงกราบศาล

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

ผิดแค่ไหน! พ่อค้าร้านขาหมูประกาศหยุดขาย หลังถูกร้องเรียนเสียงดัง

พ่อค้าร้านข้าวประกาศ หยุดขายขาหมู หลังเพื่อนบ้านร้องเรียน สับหมูรบกวนเสียงดัง ล่าสุดเทศบาลนัด 2 ฝ่ายไกล่เกลี่ยพรุ่งนี้

สพฐ. แจงปม ผอ.โรงเรียนหวงเก้าอี้ ที่ร้อยเอ็ด ชี้! ผิดวินัยไม่ร้ายแรง

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เผยผลสรุป ผอ.โรงเรียนหวงเก้าอี้ พบผิดวินัยไม่ร้ายแรง เตรียมลงดาบทางวินัย แต่ให้โอกาสปรับปรุงตัว

ณเดชน์ ใจวูบ! หลังเห็นกระแสข่าว เลื่อนงานแต่ง พร้อมขอโทษ ญาญ่า

ณเดชน์ คูกิมิยะ ถึงกับใจวูบ! หลังเห็นกระแสข่าว เลื่อนงานแต่ง บานปลายสร้างความเข้าใจผิด พร้อมขอโทษ ญาญ่า อุรัสยา

แชร์สนั่น! “ซีอิ๊วขาวแบบเม็ด” นวัฒกรรมใหม่เด็กสมบูรณ์ พกง่าย ละลายเร็ว

ชาวเน็ตอึ้ง! เด็กสมบูรณ์เปิดตัว “ซีอิ๊วขาวแบบเม็ด” นวัฒกรรมใหม่ ของซีอิ๊วขาว มาพร้อมกับสโลแกน พกสะดวก ละลายไวใน 5 วินาที

ป๊ายปาย โอริโอ้ โพสต์ยินดี สมรสเท่าเทียมผ่าน เผยเป็นวันที่รอคอยมานาน

ป๊ายปาย โอริโอ้ โพสต์ข้อความร่วมยินดี เมื่อสมรสเท่าเทียมผ่านครม. พร้อมเผยเป็นวันที่รอคอยมานานมาก โลกเปิดกว้าง ไม่จำกัดเพศ
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า