สน.คันนายาว ชี้แจงไม่ได้จงใจผลักรถจักรยานยนต์ล้ม ทำให้บาดเจ็บ ระบุอีกฝ่ายพยายามขับรถจยย.หนี เพราะไม่สวมหมวก ไม่มีใบขับขี่
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก lukpla arunya โพสต์ตำหนิเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายจราจร สน.คันนายาวและมีการแชร์ และแสดงความคิดเห็นต่างๆแล้วนั้น
ล่าสุด ฝ่ายจราจร สน.คันนายาว ได้ชี้แจงเบื้องต้นว่าด้วยเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2561 ช่วงเวลา 11.00 น. ฝ่ายจราจร สน.คันนายาว โดยมี ร.ต.ท.ภาณุมาศ กตแก้ว รอง สว.จร.พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ทำการกวดขันวินัยจราจร ตามมาตรการ กรุงเทพปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100% บริเวณแยก กม.8 ถนนรามอินทราซึ่งเป็นถนนสายหลัก
โดยมีการแจ้งให้ทางศูนย์วิทยุประชาราษฎร์ และทางสื่อออนไลน์งานจราจรของ บก.น.2 (ไลน์ จราจร บก.น.2)ทราบก่อน แล้วจึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรลงประจำจุดคอยสอดส่องตรวจตรา เพื่อจับกุมรถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย รวมทั้งผู้ซ้อนไม่สวมหมวกนิรภัย จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 11.30 น.โดยประมาณ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อสตาร์เลี่ยน(ทราบภายหลัง) ซึ่งขับขี่โดย น.ส.อรรจนา แสนโพธิ์ (ทราบภายหลัง) และมีผู้นั่งซ้อนท้ายมาด้วย โดยทั้งสองคนไม่สวมหมวกนิรภัย ผ่านมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุและก่อนที่จะเกิดเหตุล้มลง ด.ต.อนุชิต แน่นอุดร ผบ.หมู่จราจร ได้ทำการเรียกให้หยุดแต่เมื่อผู้ขับขี่ได้เห็นเจ้าหน้าที่แล้ว กลับเร่งเครื่องเพื่อหลบหนี จนไปถึงจุดที่ ร.ต.ต.สายชล สุทธิประภา รอง สว.(จร.)สน.คันนายาว ซึ่งยืนอยู่ถัดไป ได้พยายามออกไปสกัดกั้นไม่ให้หลบหนี โดยยืนขวางไว้ แต่ในขณะเดียวกันผู้ขับขี่กลับเร่งเครื่องและพยายามหลบหนี ร.ต.ต.สายชล จึงได้เบี่ยงหลบและใช้มือคว้าไว้ จึงเป็นเหตุให้รถคันดังกล่าวเสียหลักล้มลงและมีผู้ซ้อนท้ายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
เบื้องต้น ร.ต.ต.สายชล จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯมาปฐมพยาบาลเบื้องต้น อีกทั้งได้สอบถามผู้ขับขี่และผู้บาดเจ็บว่าจะไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดหรือไม่ แต่ผู้บาดเจ็บยืนยันว่าไม่ต้องการไปโรงพยาบาล ร.ต.ต.สายชล จึงได้แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบว่าผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้โดยสารต้องสวมหมวกนิรภัย อีกทั้งได้ตรวจพบว่ารถคันดังกล่าวอุปกรณ์ส่วนควบไม่สมบูรณ์ และไม่พกพาใบอนุญาตขับขี่ จึงได้ออกใบสั่งและให้ผู้ถูกจับไปชำระค่าปรับตามใบสั่งเลขที่ 335551 เลขที่17 ลงวันที่ 27 ก.ย.61 เวลา 11.39 น.
ขณะออกใบสั่งผู้ขับขี่ได้ยอมรับผิดตามข้อกล่าวหาและยกมือไหว้ขอโทษพร้อมรับสารพภาพว่าตั้งใจขับรถเพื่อหลบหนีจริง หลังจากนั้นผู้ถูกจับได้เข้ามาชำระค่าปรับที่ สน.คันนายาว ตามใบเสร็จเล่มที่ 73479 เลขที่ 037 คดีเปรียบเทียบปรับที่ 3924/61 ลง 27 ก.ย.61 เป็นเงินจำนวน 500 บาท
ขอเรียนว่า ขณะนี้ผมได้สืบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้น เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความบกพร่องอย่างใดหรือไม่. โดยได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบางส่วนและจะตรวจสอบทั้งหมดในสถานที่ดังกล่าว และสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องเพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไปครับ