ทนายเมียเก่า สมีคำ ยังยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อเรียกร้องค่าเสียหายกับเณรคำ 140 ล้านบาท ใน ขณะที่อดีตเมียสมีคำที่มาทำงานเป็นแม่บ้านให้ทนายความ เผยจะไม่เรียกร้องอะไรเพิ่ม และทุกอย่างมอบหมายให้ทนายความดำเนินการและตอบคำถามทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สำนักงานกฎหมาย นายสมชาติ วงศ์ธราธร ที่บ้านยางเฌอ ต.ขี้เหล็ก อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด ที่เป็นทนายความการฟ้องร้องคดี ของนางสาวสลักจิต อ่ำพิพัฒน์ อายุ 32 ปี อดีตภรรยาของเณรคำ ซึ่งมีข่าวว่า พักและทำงานอยู่ที่สำนักงานทนายความแห่งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้า และความเคลื่อนไหว หลังจากที่จับตัวเณรคำส่งกลับประเทศไทยแล้ว
ซึ่งทางด้านนายสมชาติ วงศ์ธราธร กล่าวยอมรับว่า นางสาวสลักจิต หรือหญิง อ่ำพิพัฒน์ อายุ 32 ปี อดีตภรรยาของเณรคำ พักอยู่ที่บ้านของตนเองจริง โดยสาเหตุที่พักทาบ้านของตนนั้น สืบเนื่องจากการที่เมื่อเณรคำมีปัญหา นางสาวสลักจิต อ่ำพิพัฒน์ อายุ 32 ปี อดีตภรรยาของสมีคำ กับลูกชาย ที่ตอนนี้อายุ 15 ปีแล้ว ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากต้องรับภาระต่างในด้านการดำรงชีพ และต้องรับผิดชอบทั้งลูกชาย และยายคือนางเผย ศรีหาวงศ์ อายุ 86 ปี ด้วย ตนสงสารจึงปรึกษากับภรรยา และรับที่จะให้ความช่วยเหลือ ด้วยการรับเข้าทำงานเป็นแม่บ้าน ให้เงินเดือนๆละ 10,000 บาท พร้อมกับดูแลส่งลูกชายให้ได้เรียนหนังสือ ซึ่งขณะนอกจากให้เงินเดือน 10,000 บาท แล้วยังช่วยส่งเสียเรียนหนังสือ จนเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนขี้เหล็กพิทยาคม
และยืนยัน ไม่ได้มีการอุ้มหรือ นำ 2 แม่-ลูกหลบหนีมาหลังจากสมีคำถูกจับกุมได้และนำตัวกลับมา เพื่อที่จะต่อรองใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้เนื่องจาก แม่-ลูก มาอยู่กับคนเองตั้งแต่ เริ่มเกิดเหตุ ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน และก็มีการกลับไปบ้านบ้างในบางครั้ง โดยล่าสุดได้กลับไปดูอาการยายสูงอายุที่ป่วย อยู่ระยะหนึ่ง ซึ่งเมื่ออาการดีขึ้น ก็เดินทางกลับมาทำงานต่อเมื่อเร็วๆนี้ ก่อนที่เณรคำจะถูกจับตัวส่งกลับเมืองไทย และเมื่อ 2 แม่-ลูกกลับมาทำงานต่อ ก็ปล่อยข่าวว่า ตนเอาตัวหนีเพื่อต่อรอง ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่อย่างใด เพราจะไม่มีข้อต่อรองใดๆอีกทั้งสิ้นหลังจากยื่นฟ้องศาลไปแล้ว 2 คดีด้วยกัน
ซึ่งคดีแรกคือ คดีที่ยื่นฟ้องศาล ที่ศาลจังหวัดอุบลราชธานี เป็นคดีเรียกร้องค่าเสียหายของ นางสาวสลักจิต หรือหญิง อ่ำพิพัฒน์ ในข้อหาข่มขืนและพรากผู้เยาว์ เรียกร้องค่าเสียหาย 100 ล้านบาท เมื่อปี 2550 และคคีที่ 2 เกี่ยวกับบุตรชาย คือน้องนนท์ ซึ่งยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนเด็กและครอบครัว ที่จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อปี 2550 เรียกร้องค่าเลี้ยงดูบุตร 40 ล้าน รวมเป็น 140 ล้าน โดยไม่เปลี่ยนแปลง
ในขณะที่นางสาวสลักจิต หรือหญิง อ่ำพิพัฒน์ อายุ 32 ปี อดีตภรรยาของสมีคำ กล่าวเพียงแต่ว่าชีวิตช่วงนั้นลำบากมาก เพราะต้องดูแลทั้งบุตร และยาย ที่อายุมาก ไม่มีงานทำ โชคดีที่ทนายความและคุณนายสงสาร รับเข้าทำงานเพื่อให้ความช่วยเหลือตนเองมาโดยตลอด จนทุกวันนี้ โดยกล่าวยอมรับเพียงแต่ว่าตอนนี้มีครอบครัวและแฟนใหม่แล้ว และทำงานเป็นคนใกล้ชิด อยู่กับทนายความท่านนี้ แต่ปฎิเสธที่จะให้รายละเอียด ในขณะที่ทางด้านการดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายต่างๆตนเองไม่ขอตอบ เพราะทุกอย่างมอบให้ทนายความที่เป็นผู้มีพระคุณเป็นคนดำเนินการทั้งหมด และทุกอย่างให้ถามทนายซึ่งจะเป็นคนให้รายละเอียดเอง