นายอภิชัย โยคะสัย ปลัดอำเภอเมืองร้อยเอ็ด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ชุดปปส. ได้ผนึกกำลังกันทำการวางแผนล่อซื้อยาเสพติด ด้วยการวางสายนัดรับยาเสพติด จากผู้ค้ายาจากจ.สกลนคร ให้นำยามาส่งให้สายตำรวจ ซึ่งนัดส่งมอบกันที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ กลางเมืองร้อยเอ็ด
ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่นัดหมาย ปรากฏว่า มีรถกระบะ หมายเลขทะเบียน บบ.2561 ชัยภูมิ ที่มีนายสุพิศ ไชยหาญ อายุ 65 ปี เป็นคนขับ มาจอดที่บริเวณนัดหมาย จากนั้นนายทนุพงษ์ แสงพลสา อดีตนายทหารเรือ ขาพิการอายุ 39 ปี ได้เดินลงมาจากรถ แล้วนำยาบ้าจำนวน 10000 เม็ด (5 มัด) เดินลงมามอบให้สายที่นัดรับยา จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อเข้าจับกุม แต่ปรากฏว่า นายทนุพงษ์ ผู้ต้องหาขาเป๋ไหวตัวทัน รีบวิ่งหนีไปขึ้นรถก่อนที่จะขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับได้ที่บริเวณ 4 แยกไฟแดง และตรวจค้นในรถยังพบยาบ้าอีก จำนวน6000 เม็ด และยาไอซ์ อีกจำนวน 100 กรัม จึงควบคุมตัวผู้ที่นั่งอยู่ในรถ เป็นชาย 2 คน หญิง 3 คน และเด็กหญิงอายุ 1 ขวบ รวม 6 คน ไปที่ ศูนย์ปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธร จ.ร้อยเอ็ดเพื่อสอบสวนปากคำ และดำเนินคดี
ซึ่ง นายทนุพงษ์ ผู้ต้องหา เล่าว่า ตนเองไม่ได้เป็นเจ้าของยาเสพติดทั้งหมดจริงๆนะ เป็นเพียงผู้รับจ้างขนยาเท่านั้นเอง โดยได้รับการว่าจ้างจากนายเล็ก ในจ.สกลนคร ให้ไปส่งยาบ้าที่ จ.ร้อยเอ็ด
10000 เม็ดก่อนที่จะส่งยาบ้าอีก 6000 เม็ด พร้อมกับยาไอซ์ ไปยังผู้ค้ายาที่จ.สุรินทร์ แต่มาถูกจับกุมดังกล่าว ซึ่งค่าจ้างในการส่งยา ก็ดีซะเหลือเกินส่ง 1 ครั้งได้เงินถึง 4 หมื่นบาท และตนทำพึ่งทำครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เอง
ในขณะที่ นายสุพิศ ไชยหาญ ผู้ต้องหาอีกรายซึ่งเป็นเจ้าของรถเล่าว่า ตนเองและภรรยา พร้อมกับลูกสาวอายุ 1 ปี ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและรู้เห็นกับยาเสพติดแต่อย่างใด รู้แต่ว่านายทนุพงษ์ บอกว่าจะ พาเมียและลูกสาวไปเที่ยวที่จ.สุรินทร์ เท่านั้นโดยให้ค่าจ้างในการขับรถสูงถึง 10,000 บาท ค่าจ้างเยี่ยมงานสบาย ใครไม่รับก็บ้าแล้ว ตนจึงขอพาภรรยาและลูกมาด้วยกะไปเที่ยวต่อ แต่พอมาถึง จ.ร้อยเอ็ด นายทนุพงษ์ก็บอกว่า ขอแวะพักที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ก่อน แล้วค่อยเดินทางต่อ โดยตนคาดไม่ถึงจริงๆว่า จะเป็นการแวะนำยาบ้ามาส่ง แต่ก็ดันซวยมาโดนหางเล่ห์ถูกจับกุมไปด้วย