แม่”น้องเมย์” ร้ำไห้ ไม่อโหสิกรรมให้คนฆ่า แช่งให้ตายตามกัน เผย เช้าวันที่ 25 กันยายน โทรหาลูก แต่ไม่รับสาย
กรณีคนร้ายฆ่าโหดใช้ของมีคมแทงสาววุฒิศักดิ์ กว่า 20 แผล เสียชีวิตคาห้องพักที่คอนโดมีเนียม ในเขต อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี กว่า 20 แผล โดยผู้ตายเป็นชาวบ้าน อ.หนองวสัวซอ จ.อุดรธานี ที่ไปทำงานอยู่ที่สถานเสริมความงามวุฒิศักดิ์ ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 กันยายน ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 198 หมู่ 2 บ้านโนนสว่าง ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.ประภาพร หรือ น้องเมย์ วรวงศ์ อายุ 19 ปี ผู้เสียชีวิต พบว่าที่บ้านมีญาติพี่น้องของน้องเมย์จำนวนมาก เดินทางมาดูแลและให้กำลังใจ นางเหรียญ วรวงศ์ อายุ 53 ปี แม่ของน้องเมย์ ที่นอนร้องไห้กอดภาพถ่ายของน้องเมย์ไว้แน่น นอนอยู่บนเสื่อหน้าบ้าน ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ขณะที่ได้ตั้งเต้นท์ โต๊ะ เก้าอี้ เพื่อเตรียมทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพของน้องเมย์ฯ ที่จะเดินทงกลับมาถึงในคืนนี้ โดย นายหนูคล้าย วรวงศ์ อายุ 63 ปี พ่อของน้องเมย์ ได้เดินทางไปรับศพน้องเมย์ฯ พร้อมกัยหลานชายและหลานเขย ที่ จ.นนทบุรี ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
หลังจากที่นางเหรียญ ตั้งสติได้ จึงพยยายามลุกขึ้นมาพูดคุยกับผู้สื่อข่าว พร้อมร้องไห้กอดภาพของน้องเมย์ตลอดเวลา จากนั้นนางเหรียญ และญาติ ๆ ของน้องเมย์ ได้นำภาพน้องเมย์ ลุกขึ้นเดินออกไปทำพิธีจุดธูปเทียน สักการะเสาหลักบ้าน ที่เป็นที่เคารพนับถือของคนในหมู่บ้านบ้านโนนสว่าง ที่ตั้งอยู่เยื้องบ้านของน้องเมย์ ห่างเพียง 30 เมตร โดยนางเหรียญ ภาวนาขอให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะอยากรู้ว่าเป็นใคร และต้องฆ่าน้องเมย์ทำไม
นางเหรียญ แม่ของน้องเมย์ เล่าให้ฟังว่า ทางบ้านมีฐานะยากจน พ่อกับแม่มีที่นาเพียง 4 ไร่ และบ้านหลังนี้เท่านั้น โดยทางพ่อเคยประสบอุบัติเหตุรถชนศีรษะกระแทกพื้น ทำให้สมองไม่ดีเท่ไหร่ ได้แต่ออกไปหารับจ้างทั่วไป ส่วนตนเองป่วยเป็นโรคเบาหวานและความดันสูง ทำงานได้บ้างนิดหน่อย และมีพี่ชายน้องเมย์ฯ อีกคน อยุ 27 ปี ที่ป่วยเป็นโรคสมองโต ช่วยตัวเองไม่ได้ มีแต่น้องเมย์ฯ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว ซึ่งหลังจากน้องเมย์ฯ เรียนจบชั้น ม.6 ที่โรงเรียนประจำตำบล แต่ทางบ้านไม่มีเงินส่งเสียให้เรียนต่อ น้องเมย์ฯ จึงขอเข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯ
“โดยมีอาเขยที่เป็นตำรวจอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นผู้พาไปสมัครงานได้ที่วุฒิศักดิ์ ตั้งแต่เดือนเมษายน ปีที่ผ่านมา โดยจะได้เงินเดือนประมาณ 15,000-16,000 บาท แล้วแต่จะได้ลูกค้ามากหรือน้อย และตั้งแต่น้องเมย์ ไปทำงาน ก็ส่งเงินมาให้ทางบ้านตลอดทุกเดือน ซึ่งทางพ่อและแม่บอกให้ส่งมาให้เดือนละ 3,000 บาทพอ ตนอยากให้ลูกเก็บเงินไว้ เพราะเขาอยกเรียนต่อใฝ่ฝันอยากเป็นสัตวแพทย์รักษาสัตว์ ซึ่งน้องเมย์ เป็นเด็กที่เรียนดี นิสัยร่าเริงแจ่มใส พูดจาเพราะ เป็นที่รักของครู เพื่อน ๆ และคนในหมู่บ้าน”
นางเหรียญ เล่าอีกว่า ตั้งแต่น้องเมย์ ไปทำงานเขาจะโทรมาหาแม่หลังเลิกงานประมาณ 3 ทุ่มทุกวัน เพราะเขาห่วงแม่ ห่วงพ่อ ห่วงพี่ชาย บอกว่าจะเก็บเงินต่อเติมบ้านก่อน จากนั้นจะเก็บเงินสัก 5 ปี เพื่อหาทางเรียนต่อ ทำตามความฝัน เขากลับมาบ้านครั้งสุกท้ายเมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ก็บอกว่าจะหาเงินปูกระเบื้องหน้าบ้านก่อน และจากนั้นก้คุยกันทางโทรศัพท์ ครั้งสุดท้ายประมาณ 3 ของคืนวันที่ 24 กันยายน ก่อนที่ลูกจะเสียชีวิต ซึ่งก็ไม่มีลางบอกเหตุอะไร
“จนเช้าวันที่ 25 กันยายน ปกติแม่จะโทรหาเขาก่อนไปทำงาน แต่ว่าน้องเมย์ ไม่รับสาย ซึ่งตอนนั้นไม่ได้เอะใจอะไร จนมาตอนก่อนเที่ยง มีคนโทรมาจากที่ทำงานของลูกบอกว่าน้องเมย์ฯ ถูกฆ่าตายที่ห้องพัก ตนและครอบครัวตกใจมาก ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง จนทราบจากข่าวว่าลูกตายแล้วจริง ๆ ยิ่งเสียใจหนักขึ้น จนทำอะไรไม่ถูก ทางญาติได้นำภาพน้องเมย์ฯ จากในเฟสบุ๊คไปขยายมาให้ ตนได้แต่เสียใจทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นอนร้องไห้กอดรูปลูกไว้ คิดเพียงว่าหากจับคนที่ฆ่าลูกได้ ขอให้มีคนฆ่าคนที่ฆ่าลูกให้ตายไปด้วย เพื่อแก้แค้นให้ลูก”
นางเหรียญ บอกอีกว่า ตนก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนลงมือ จะว่าลูกมีผู้ชายก็ไม่ใช่ เพราะที่ผ่านมาลูกเคยโทรศัพท์มาหา บอกว่ามีลูกค้าชายที่มารับบริการที่ร้านมาชอบพอ อายุประมาณ 30 กว่าปี เป็นพ่อหม้าย โดยเป็นเจ้าของอู่รถ ชวนน้องเมย์ฯ ไปทำงานด้วย และจะให้เงินเดือน 20,000 บาท เคยจะให้แม่คุยกับเขาแต่แม่ไม่คุยด้วย ซึ่งลูกก็บอกกับแม่ว่า ไม่คิดเรื่องมีครอบครัว เพราะอายุยังน้อยเพียง 19 ปี เท่านั้น อยากทำงานเก็บเงินด้วยตัวเอง และลูกยังบอกว่าเดือนหน้าจะกลับมาเยี่ยมบ้านอีก แต่ลูกก็ไม่ได้มา ถึงมาก็เป็นเพียงร่างที่ไร้ลมหายใจ ตอนลูกกลับไปทำงานเขามีชีวิต แต่ครั้งนี้พอลูกจะกลับ ต้องเป็นร่างที่ไร้ลมหายใจ
“ขอฝากไปถึงตำรวจ ขอให้เร่งจับตัวคนร้ายที่ฆ่าน้องเมย์ฯให้ได้ ถ้าจับได้ตนก็ไม่ขออโหสิกรรมให้ อยากให้คนฆ่าน้องเมย์ฯ รับกรรมตายตกไปเช่นกัน ส่วนศพของน้องเมย์ฯ ทางพ่อเขาเดินทางไปรับ น่าจะถึงบ้านในคืนนี้ โดยจะทำพิธีสวดที่บ้าน และจะเผาน้องเมย์ฯ ที่วัดประจำหมู่บ้านในวันศุกร์ ที่จะถึงนี้ โดยไม่เก็บไว้ เพราะว่าลูกถูกแทงหลายแผลมาก จึงไม่อยากจะเก็บลูกเอาไว้ให้เขาทรมาน” นางเหรียญ กล่าวทั้งน้ำตา
