ครอบครัวของนางสาวจุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม หรือ ผอ.อ้อย เดินทางมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นหนังสือไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ช่วยเร่งรัดคดี หลังคดีไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร เนื่องจากผู้ต้องสงสัยเป็นนายทหารยศร้อยเอก มีพรรคพวกผู้มีอิทธิพลเกี่ยวข้อง ขณะที่รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างประสานเข้าพิสูจน์ศพต้องสงสัยที่ถูกฆ่าอยู่ในพื้นที่ประเทศลาว
เมี่อช่วงสายที่ผ่านมา นางแหวน อุ่นอ่อน มารดาของ แม่ของ ผอ.อ้อย พร้อมด้วย นายบัวกัน อุ่นอ่อน และ นางสาวหมายปอง อุ่นอ่อน น้าและพี่สาว เข้ายื่นหนังสือถึง พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้เร่งรัดติดตามคดีของ น.ส.จุฑาภรณ์ ที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
นายบัวกัน กล่าวว่า ที่ต้องเดินทางมาร้อง ผบ.ตร.เนื่องจากคดีไม่มีความคืบหน้า ญาติเกรงว่า เงียบหายไป เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นนายทหารยศร้อยเอก มีพวกพ้องนายทหารจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีความกังวลอีกหลายเรื่องกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม รวมถึงยังคดีนี้อาจมีพลเรือนที่อาจเป็นผู้มีอิทธิพลด้วยเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เบื้องต้นได้รวมรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ส่งมอบให้ ผบ.ตร.ด้วย ยืนยันว่าจะทวงถามตามหาความเป็นธรรมในเรื่องนี้จนถึงที่สุด
ด้าน นางแหวน แม่ของ ผอ.อ้อย บอกว่า ครอบครัวพยายามเข้าไปตรวจสอบบริเวณพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนติดกับประเทศลาว หลังพบข้อมูลว่าพบศพหญิงนิรนามห่อด้วยพลาสติก แต่เบื้องต้น ตำรวจของลาว ยังไม่อนุญาตให้เข้าไปที่บริเวณต้องสงสัย เนื่องจากไม่มีการประสานงานอย่างเป็นทางการ
ขณะที่พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คดีนี้ตำรวจท้องที่รายงานว่า คดีได้ดำเนินการไปตามขั้นตอน และมีการสืบสวนขยายผล แต่ขณะนี้สำนวนคดี ยังเป็นสำนวนคดีบุคคลสูญหาย เพราะยังไม่พบผู้เสียชีวิต โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะให้ความเป็นธรรมและพร้อมให้ความคุ้มครองครอบครัวของผู้เสียหาย ส่วนกรณีที่พบผู้เสียชีวิตในบริเวณใกล้ชายแดนติดกับประเทศลาว อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ทราบตัวบุคคล
ส่วนความคืบหน้าทางคดีในพื้นที่ ล่าสุด พันตำรวจเอกประเสริฐศักดิ์ ศรีไชย ผู้กำกับกลุ่มงานสอบสวน ตำรวจภูธร จังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า การสอบสวนมีความคืบหน้าไปมาก พบว่า หลังจากที่ ผอ.อ้อยหายตัวไป มีผู้ใช้เฟสบุ๊คและไลน์ของ ผอ.อ้อย สนทนากับญาติพี่น้อง พนักงานสอบสวน จึงได้ให้พี่สาวของ ผอ.อ้อย ส่งข้อความ เข้าไปในเฟสบุ๊คของ ผอ.อ้อย จากนั้น ข้อความของ ผอ.อ้อย ก็ตอบมา เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจโทรศัพท์มือถือของร้อยเอกศุภชัย ภาโส ผู้ต้องหามาตรวจสอบ ก็พบว่า อีมี่โทรศัพท์ของร้อยเอกศุภชัย ใช้บัญชีเดียวกับ ผอ.อ้อย เพื่อใช้พูดกับญาติของ ผอ.อ้อย มาโดยตลอด ทำให้เป็นหลักฐานสำคัญส่วนหนึ่งในการสอบสวนหาตัว น.ส.จุฑาภรณ์ที่หายไป