ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ มากประดิษฐ์ ผบ.หมู่.กก.ปพ.บก.สส.ภ.8 หรือ น้องอาร์ม เปิดใจ หลังจากที่สามารถจับกุมคนร้ายฆ่าพ่อได้ว่า หลังจากที่ นายประสิทธิ์ แซ่อื้อ ผู้เป็นพ่อได้ถูกคนร้ายฆ่าเสียชีวิต ว่าตอนนั้นตนเองอายุได้ 1 ขวบเศษ ถือว่าเป็นเด็ก ที่ยังไร้เดียงสา ต่อมาอายุเริ่มมากขึ้นจนเป็นวัยรุ่น ก็ได้พูดคุยและสอบถาม ประกอยกับคนแวดล้อม ได้กล่าวถึงพ่อ ตนซึ่งเก็บความสงสัยไว้ในใจมานานว่าพ่อเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไรจนรู้ที่มาที่ไปของการเสียชีวิตของพ่อ
น้องอาร์ม เล่าว่า หลังจากนั้น ตนเองได้พยายามสืบเสาะหาตัวคนร้ายว่ามีใครบ้างที่ร่วมฆ่าพ่อ แต่เพราะตนเองเป็นวัยรุ่น มีความคิดแบบชาวบ้านๆจึงไม่สามารถจะสืบหาตัวคนร้ายได้ จึงได้บากบั่นตั้งใจที่จะสอบเป็นตำรวจให้ได้ โดยมุ่งหวัง จะสืบและจับตัวคนร้ายที่มารู้ว่ายังเหลืออีกคน ให้ได้
จนปี 60 ตนเองได้สอบติดนักเรียนตำรวจ ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้ และจบออกมา เมื่อเดือน ก.พ.61ที่ผ่านมา โดยได้รับการบรรจุประจำกองบังคับการ ตำรวจสืบสวนสอบสวน ตร.ภาค 8 จ.ภูเก็ต ซึ่งตรงกับใจที่ต้องการอยู่หน่วยนี้ ตนเองได้ปรึกษาผู้บังคับบัญชาในเรื่องนี้ โดยตลอด จนมาสืบทราบว่า คนร้ายที่ยังหลงเหลืออีกคน ได้หวนกลับมาที่บ้านเกิด ในตำบลสองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงได้วางสายดูบุคคลดังกล่าวจนรู้ที่อยู่ที่ชัดเจนและพฤติกรรมในแต่ละวันของคนร้ายที่ฆ่าพ่อ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาได้ทราบ ก่อนจะประสายตำรวจกองปราบและตำรวจพื้นที่บุกจับกุมตัวคนร้ายได้ขณะขับรถแทรกเตอร์อยู่ในสวน ม.2 ต.สองพี่น้อง ได้โดยละม่อม
“ผมไม่ได้โกรธแค้นอะไรเขาเป็นการส่วนตัวนะ ตอนจับได้ก็ยังไปถามว่าเขาฆ่าพ่อผมจริงหรือเปล่า แต่เขาก็ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนแทงพ่อผม เพื่อนอีกคนเป็นคนแทง หากเขาไม่ได้ฆ่าพ่อผม ผมก็อยากช่วยเขานะ แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องไปสู้คดีกันในชั้นศาล ผมเป็นตำรวจ ผมมีปืน แต่ผมเลือกที่จะใช้กฎหมายเล่นงานคนที่ฆ่าพ่อผม อีกทั้งไม่เคยมีความคิดจะลงมือฆ่าเขาให้ตายตกตามกันเลย ให้กระบวนการยุติธรรมเป็นคนตัดสิน”
ผบ.หมู่.กก.ปพ.บก.สส.ภ.8 กล่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจ ที่สามารถทำตามความตั้งใจที่มุ่งหวังที่จะติดตามจับกุมคนร้ายฆ่าพ่อให้ได้ และเหมือนพ่อดลจิตดลใจให้จับกุมได้โดยเร็วหลังที่ตนเองเพิ่งจบตำรวจมา จนสามารถจับกุมคนร้ายได้ในที่สุด เพราะหากพ้นผ่านไปถึงเดือนธันวาคม 61 หรืออีกเพียง 1 เดือนเศษ หมายจับก็จะหมดอายุความ
สำหรับคดีเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 – 6 ธ.ค.2541 นายประสิทธิ์ แซ่อื้อ และ นายชาณี ทองหญีต ถูกฆ่าเยชีวิตอย่างโหดเหี้ยม ก่อนคนร้ายนำศพมาทิ้งไว้ที่บริเวณสระน้ำริมทาง บ้านท่าตะเภา ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ต่อมาวันที่ 22 ก.ย.2551 ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ออกหมายจับฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ,ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัว และข้อหาอื่น จากนั้น เมื่อวานนี้(5 พ.ย.61)กองปราบปรามได้จับกุมตัว นายบุญฤทธิ์ ครุฑละออง อายุ 54 ปี ชาว จ.ชุมพร ผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้ในที่สุด
