บิ๊กโจ๊ก สุรเชษฐ์ หักพาล เชื่อ รถยนต์ถูกยิง มีมูลเหตุจากปม ไบโอเมทริค เพียงเรื่องเดียว เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีคู่อริกับใคร
เมื่อวันที่ 8 ม.ค. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลบางรัก กรณีรถยนต์ ยี่ห้อ เลกซัส รุ่น อาร์เอ็กซ์ 270 สีขาว ทะเบียน 9 กจ 351 กรุงเทพมหานคร ถูกคนร้ายลอบยิง เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 21.40 น. ของวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะจอดอยู่ บริเวณหน้าร้านนวดแห่งหนึ่ง บนถนนสุรวงศ์
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้มาตัวเปล่า ซึ่งที่ผ่านมาพยายามเก็บเนื้อเก็บตัว และไม่คิดว่าจะมาเจอกันในสถานการณ์แบบนี้ ที่ต้องช่วยเหลือตัวเอง สิ่งแรกขอทุกคนไม่ต้องกังวลใจว่า ตนจะไปสร้างภาพสร้างสถานการณ์ต่างๆ เพราะสิ่งที่ตนถูกกระทำที่รับมันก็มากพอแล้ว วันนี้รถตนก็เสียหายเยอะแยะไปหมด เชื่อว่ามันไม่มีมูลเหตจูงใจที่จะจัดฉาก เนื่องจากเป็นตำรวจเก่า ถ้ามีคู่อริกับใคร ตนต้องรู้ ส่วนประเด็นมูลเหตุมีเรื่องเดียว คือ เรื่องไบโอเมทริค เพราะการตรวจรับงานไบโอเมทริคมันล่าไป 100 กว่าวัน ซึ่งก็ต้องรักษาผลประโยชน์ให้หน่วย มันเป็นภาษีของประชาชน เมื่อตัดสินใจเซ็นต์หนังสือถึงผบ.ตร. แล้วก็ต้องกล้ารับ การตัดสินใจ เพื่อหน่วยและประเทศชาติ
“ถ้าไม่ใช้ผู้มีอำนาจจริงๆ ไม่มีใครกล้าทำกับผมหรอก น่าจะเป็นคนคนเดียวกับคนที่ยิงรถนักข่าว ถ้าผมเป็นผบ.ตร. จับคนแบบนี้ไม่ได้ ผมต้องรับผิดชอบ กล้องวงจรปิดมันเต็มไปหมด จะจับไม่ได้ได้ยังไง คดีของผม วันนี้วันที่ 3 แล้ว ยังไม่มีวี่แววอะไรเลย แต่ผมไม่ตำหนิใคร ผมไม่ได้ท้าชนใคร มันต้องเอาความจริงให้ปรากฎ ถ้ามันไม่มีความผิดจริงๆ ผมไม่กล้าเซ็นยกเลิกไบโอเมทริคหรอก ไม่อย่างนั้นบริษัทเขาก็ต้องฟ้องผมแล้ว” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว