อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 แถลงยอมรับ คนร้ายโหดชิงทอง มีทักษะใช้ปืนมือเดียว และผ่านการฝึกยิงปืนมาก่อน
เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่สภ.เมืองลพบุรี พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) พร้อมทีมชุดสืบสวน แถลงความคืบหน้าคดีคนร้ายโหดก่อเหตุอุกอาจใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ รปภ.และประชาชน เพื่อชิงทองที่ร้านทองออโรร่า ในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จังหวัดลพบุรี จนมีผู้เสียชีวิต 3 ราย มีเด็กชาย 2 ขวบ 1 ราย และได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 คน ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดี โดยคำสั่งมอบหมายให้พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผบ.ตร. เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนเร่งติดตามคนร้าย และระดมจากหน่วยต่างๆ จาก กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองปราบปราม ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ร่วมกันทำคดีทั้งสอบพยานที่เกิดเหตุ ไล่ภาพกล้องวงจรปิดทั้งในห้า 97 ตัว และตามเส้นทางที่คาดว่าจะหลบหนี ลพบุรี เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่สภ.เมืองลพบุรี พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) พร้อมทีมชุดสืบสวน แถลงความคืบหน้าคดีคนร้ายโหดก่อเหตุอุกอาจใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ รปภ.และประชาชน เพื่อชิงทองที่ร้านทองออโรร่า ในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จังหวัดลพบุรี จนมีผู้เสียชีวิต 3 ราย มีเด็กชาย 2 ขวบ 1 ราย และได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 คน ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดี โดยคำสั่งมอบหมายให้พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผบ.ตร. เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนเร่งติดตามคนร้าย และระดมจากหน่วยต่างๆ จาก กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองปราบปราม ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ร่วมกันทำคดีทั้งสอบพยานที่เกิดเหตุ ไล่ภาพกล้องวงจรปิดทั้งในห้า 97 ตัว และตามเส้นทางที่คาดว่าจะหลบหนี
พล.ต.ท.อำพล กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่า คนร้ายขับรถจักรยานต์ออกจากห้าง เลี้ยวขวาย้อนศรตรงไปทางโพธิ์ 9 ต้น ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมุ่งหน้าไปยังจังหวัดสิงห์บุรีและจังหวัดอ่างทอง หรือจะย้อนกลับเข้าจังหวัดลพบุรีก็ได้ ระหว่างทางกล้องวงจรปิดค่อนข้างที่จะห่างไกลกัน หากในวันเกิดเหตุใครที่ขับรถมาให้เส้นทางนี้หรือใกล้เคียง ช่วงประมาณ 20.40 น. หรือตามปั๊มน้ำมัน พบเห็นรถจักรยานยนต์ฟีโน่สีขาว-แดง ขอให้นำภาพจากกล้องหน้ารถ มาให้ตำรวจ เพื่อนำมาประกอบข้อมูลทางคดี ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นใคร ต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอ และลายพิมพ์นิ้วมือ แต่ดูจากวงจรปิดแล้วคนร้ายมีทักษะในการใช้ปืนมาก เพราะสามารถวิ่งและยิงด้วยมือเดียวอย่างแม่นยำ ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างพิสูจน์ทราบบุคคลและกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง และยังบอกไม่ได้ว่าจะจับเป็นหรือจับตาย เพราะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เนื่องจากคนร้ายไม่ธรรมดา ผ่านการฝึกยิงปืนมาก่อน
“ผมเชื่อว่าคนใกล้ชิดหรือในครอบครัวที่รู้จักคนร้าย เมื่อเห็นลักษณะการเดินแล้ว ต้องจำได้แน่นอน เพราะคนๆ นี้ไม่ธรรมดา เชื่อว่าต้องผ่านการฝึกยิงปืนมาแล้ว กลุ่มคนเล่นปืน มักจะรู้ว่าใครครอบครองและมีท่าทางลักษณะการยิงอย่างไรบ้าง ถ้าใครรู้เบาะแสก็แจ้งตำรวจทันที”พล.ต.ท.อำพลกล่าว