รมว.ยุติธรรม เผยเล็งนำ กำไล EM พิจารณาพักโทษผู้ต้องขัง ช่วงการปล่อยตัว ส.ค. ถึง ก.ย. นี้ ป้องกันก่อเหตุซ้ำ พร้อมคุมเข้มอย่าให้ โควิด 19 ระบาดในเรือนจำ
18 เม.ย. 63 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า การประชุมวิดีโอคอนเฟอเร็นซ์ กับผู้บัญชาการเรือนจำ 141 แห่ง ทั่วประเทศ ที่ผ่านมา ตนได้กำชับทุกเรือนจำห้ามประมาท สอดส่อง คัดกรองให้ละเอียด ดูแลอย่าให้เชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 เข้าสู่เรือนจำ เพราะจะได้รับผลกระทบในวงกว้างทันที เวลานี้ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ทำแล็บ เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อองค์กร ที่สามารถตรวจบุคคลภายนอก และบุคลากรของกระทรวงยุติธรรมได้ ดังนั้นผู้บัญชาการทุกเรือนจำต้องหาทางศึกษาการเก็บสารคัดหลั่งให้เป็น เพื่อนำส่งมาให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจหาเชื้อให้ เพื่อความรวดเร็วและป้องกันไม่ให้เชื้อลุกลามต่อไป
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า เวลานี้เราสามารถสร้างภูมิคุ้มกันในเรือนจำได้ดี รายการ เรื่องเล่าชาวเรือนจำ ทำให้ผู้ต้องขังเกิดความเข้าใจในสถานการณ์ต่างๆ จนไม่มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นอีก สังคมก็ชื่นชมเพราะเห็นว่าเราพยายาม เวลาทำงานสำเร็จเราก็สำเร็จด้วยกัน ขอให้ทุกคนทำงานหนักเฝ้าระวังให้ละเอียดห้ามการ์ดตก
“การปล่อยตัวนักโทษของกรมราชทัณฑ์ ต้องมีการคัดกรองให้ดี ต้องรู้ว่าแต่ละคนเป็นนักโทษที่มีพฤติกรรมอย่างไร มิใช่ปล่อยออกมาแล้วก่อเหตุซ้ำ ต้องใส่ใจนักโทษ เพราะในเดือนสิงหาคม – กันยายน เราจะมีกำไลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ กำไลอีเอ็ม ก็จะมีการพิจารณาพักโทษเพิ่ม”
อย่างไรก็ตาม การใส่ใจที่ระบุต้องรวมถึงงบประมาณที่กระจายสู่เรือนจำกว่า 190 ล้านบาท ที่ทำห้องกักโรค รวมถึงทำเตียง 2 ชั้นที่บางเรือนจำเริ่มลงมือทำแล้ว ต้องวางแผนคำนวณตารางเมตรให้ดี ที่นอนผู้ต้องขังต่อคนนั้นประมาณ 1.2 ตารางเมตร มิใช่ทำแล้วที่นอนเล็กกว่าโลงศพ อากาศต้องถ่ายเท ถูกสุขลักษณะเป็นสำคัญ