ลูกเศร้าใจ พ่อ-แม่ป่วยโควิด ทรัพย์สินหายกว่า 6 แสน หลังพ่อแม่เสียชีวิต โรงพยาบาลดำเนินการแจ้งความ แต่ยังไม่พบตัวคนร้าย
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้เสียหายรายหนึ่งได้ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่าทรัพย์สินของคุณพ่ออายุ 81 ปี คุณแม่อายุ 72 ปี ได้หายไประหว่างที่กำลังรักษาตัวหลังติดเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งโดยทราบผลว่าติดเชื้อเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. และได้เข้ารับการรักษาเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 64 พ่อของตนได้เสียชีวิต และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้เก็บทรัพย์สินของคุณพ่อ ประกอบไปด้วย สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 5 องค์ ของหลวงปู่ทิม เงินสด 6,000 บาท บัตร ATM บัตรประชาชน กุญแจบ้าน มาฝากไว้ในกระเป๋าของคุณแม่ที่ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ในห้องพิเศษของโรงพยาบาล และทางเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายรูปเป็นหลักฐานส่งให้กับตนเพื่อความสบายใจ และทรัพบ์สินของคุณแม่ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทองหลวงปู่ทวดอีก 1 องค์ ทางเจ้าหน้าที่ รพ.เก็บรวมกันไว้ทั้งหมด
ต่อมาวันที่ 12 สิงหาคม ตนได้ทราบข่าวจากคุณแม่ว่าทรัพย์สินทั้งของคุณพ่อและของคุณแม่หายไปทั้งหมดและไม่ทราบว่าใครเป็นคนหยิบไป ตนจึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และติดต่อไปทางโรงพยาบาลเพื่อขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดและสอบสวนเจ้าหนา้ที่ทุกคนเพื่อหาผู้ที่นำทรัพย์สินไป
เวลาต่อมาทางโรงพยาบาลแจ้งว่า ไม่พบเจ้าหน้าที่ที่ผิดสังเกตในกล้องวงจรปิดและไม่สามารถเรียกเจ้าหน้าที่ทุกคนมาสอบสวนได้และทางโรงพยาบาลจะดำเนินการเรื่องการแจ้งความจับคนร้ายให้ ทางคุณแม่ที่ได้ทราบข่าว ก็มีอาการทรุดหนักและได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ผู้เสียหายยังได้เล่าอีกว่า “หลังคุณพ่อเสียชีวิตตนพยายามติดต่อขอทรัพย์สินคืนทางเจ้าหน้าที่ก็บอกทรัพย์สินอาจติดเชื้อ เเม้กระทั่งบัตรประชาชนและกุญแจยังไม่สามารถนำออกมาได้เพราะจะมีเชื้อโควิด จนมาสูญเสียคุณแม่ สุดท้ายสมบัตของท่านทั้งสองก็หายไป คนที่หยิบทรัพย์สินคุณพ่อคุณแม่ไปตอนนั้นจิตใจเขาทำด้วยอะไร คนที่เข้าไปต้องรู้สภาพคุณแม่ ตอนนั้นคุณแม่แค่หายใจก็เหนื่อยแล้ว คนที่เข้าไปก็คือคนที่ใส่ชุดขาว สภาพแบบนั้นของคุณแม่เขายังหยิบไปได้ ใจเขาทำด้วยอะไร”
ทางด้านนายเกียรติคุณ ต้นยาง (ทนายโป้ง) ประธานชมรมทนายจิตอาสา กล่าวว่า อยากขอวิงวอนและให้โอกาสครั้งสุดท้ายกับโรงพยาบาลที่เกิดเหตุ ต้องออกมารับผิดชอบคุณจะมาอ้างว่าขอไปสืบสวนสอบสวนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของคุณหรือเปล่าหรือเป็นใคร อันดับแรกคุณต้องชดใช้ค่าเสียหายกับผู้เสียหาย ผู้เสียหายไม่ได้ติดใจในเรื่องของทรัพย์สิน แต่ติดใจตรงที่เป็นสิ่งของแทนคุณพ่อคุณแม่ อย่างไรก็ตามก็ตามทรัพย์สินที่เป็นความดูแลของโรงพยาบาล กับต้องสูญหายไป ต้องขอวิงวอนเป็นครั้งสุดท้าย มิเช่นนั้นตนอาจจะต้องพาผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีกับโรงพยาบาลและบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกคนให้ถึงที่สุด
ข่าวที่น่าสนใจ