จากกณี 5 ผู้บริหาร ของธนาคารกรุงไทยฯ เซ็นอนุมัติ ปล่อยสินเชื่อเงินกู้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้กับกลุ่มกฤษฎานคร และบริษัทในเครือ นำเงินไปใช้ในทางที่ผิด เข้าข่ายฟอกเงินและศาลได้พิพากษาจำคุกผู้กระทำผิดไปแล้ว 3 คน แต่ยกฟ้องอีก 2 คน วันนี้ นายวันชัย ทนายความอิสระ จึงเดินทางมาที่ดีเอสไอ เพื่อยื่นจดหมายให้ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนขยายผลหาผู้กระทำผิดเพิ่มเติม
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ วันนี้ (8 มิ.ย.60) นายวันชัย บุนนาค ทนายความอิสระ เดินทางมายื่นหนังสือ เพื่อร้องเรียน ร้องทุกข์ต่อหน่วยงานของรัฐ และให้ประชาชนร้องหน่วยงานรัฐ ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ละเว้น ผู้ร่วมกระทำความผิดในคดีฟอกเงินกับผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่ปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มกฤษดานคร และบริษัทในเครือครั้งนั้น ซึ่งศาลฎีกามีคำพิพากษาไปแล้วว่า ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) อนุมัติปล่อยสินเชื่อ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินหลายบริษัท หลายกลุ่ม และมีเอกสารทางการเงินที่ชัดเจน เกี่ยวพันกับสถาบันการเงินระดับใหญ่ 2 แห่ง คือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่อนุมัติปล่อยเงินสินเชื่อให้กับกลุ่มกฤษฎานคร และบริษัทในเครือในจำนวนเงิน 8 พันล้านบาท ให้ไปชำระหนี้กับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในจำนวน 3 พันกว่าล้านบาท หรือที่เรียกว่า รีไฟไฟแน้นซ์ โดยมีผู้บริหาร 5 คน เซ็นชื่ออนุมัติสินเชื่อปล่อยกู้ให้ และศาลได้พิพากษาผู้บิหารที่กระทำความผิด ให้จำคุกไปแล้ว 3 คน แต่ยังเหลืออีก 2 คนที่ไม่ถูกฟ้อง คือนายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ และนายอุตตม สาวนายน นายวันชัย จึงเดินทางมาที่ดีเอสไอ อีกครั้ง เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนขยายผลหาผู้กระทำผิดให้มากกว่านี้
ทั้งนี้ นายวันชัย ยังกล่าวอีกว่า การกระทำของผู้บริหารทั้ง 5 คนของธนาคารกรุงไทย ในครั้งนั้น สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ จึงอยากให้ดีเอสไอ พิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องนี้ และอยากให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทุกคน ตนเองจึงใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 41 วรรค 2 และ วรรค 3 เพื่อให้ศาลพิจารณาเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป ซึ่งขณะนี้เรื่องดังกล่าว พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกของดีเอสไอ ได้เป็นตัวแทนมารับจดหมายร้องเรียนกับ นายวันชัย ทนายความอิสระเพื่อดำเนินการต่อไปแล้ว