วันนี้มีการจัดพิธีฌาปนกิจศพ หญิงสาววัย 33 ปี ที่ถูกฆ่าทุบหัวแล้วหมกศพไว้ในห้องน้ำโรงเรียนบ้านหนองคล้า จ.ตรัง ทั้งๆ ที่ตำรวจยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ แต่สามีผู้ตายก็ยังมั่นใจว่า ตำรวจจะปิดคดีนี้ได้อย่างแน่นอน
ทางครอบครัวและญาติๆ ได้ช่วยกันยกศพ ของ นางสาว ลัดดา จินดาแก้ว อายุ 33 ปี ซึ่งได้เสียชีวิต จากการถูกคนร้ายใช้ของแข็งทุบศีรษะ บริเวณห้องน้ำของโรงเรียนบ้านหนองคล้า อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ขณะพาลูกชายวัย 7 ขวบ ไปเล่นฟุตบอลที่สนามหญ้าของโรงเรียน เมื่อช่วงเย็น วันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา ไปประกอบพิธีฌาปนกิจศพที่วัดเขาวิเศษ โดยมี นายวรพันธุ์ สุวรรณยุหะ นายอำเภอวังวิเศษ เป็นประธานในพิธี
นายอภิชัย อภิบาล สามีผู้เสียชีวิต กล่าวถึงสาเหตุที่ครอบครัวยอมเผาศพ น.ส.ลัดดา ก่อนที่จะจับคนร้ายได้ ว่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ความมั่นใจ ในการรวบรวมพยานหลักฐาน ว่าจะสามารถเอาผิดผู้ต้องหา คือ นายวินิจ ผู้อำนวยการโรงเรียนได้อย่างแน่นอน และก็เชื่อมั่นว่า เจ้าหน้าที่จับกุมคนร้ายไม่ผิดตัว และจากนี้ก็จะติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป โดยเฉพาะผลดีเอ็นเอที่พบจากศพของภรรยา ที่เชื่อว่าจะต้องมี เพื่อเอามายืนยันตัวคนก่อเหตุ เพื่อให้ถูกลงโทษตามกฎหมายให้ได้ และโดยส่วนตัว หลังจากเสร็จพิธีเผาศพภรรยาแล้ว ก็จะเดินทางไปทำงานที่จังหวัดภูเก็ตต่อไป ส่วน น้องฟิล์ม (บุตรชาย) วัย 7 ขวบ ก็จะอยู่กับตา-ยาย เพื่อเรียนหนังสืออยู่ที่บ้าน
สำหรับความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่จะยืนยันดีเอ็นเอของคนร้าย ว่าตรงกับดีเอ็นเอที่เก็บได้จากศพของผู้ตายหรือไม่ โดยทางเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องศาลได้ภายในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ หรือภายในระยะเวลา 84 วัน นับจากวันที่ 26 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งนายวินิจฟ้องศาล แล้วได้รับการประกันตัวออกไป