ความคืบหน้าติดตามจับ นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ “เสี่ยอ้วน บางลา” ผู้บงการฆ่า น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ น้องสปาย อายุ 20 ปี กับ นายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือน้องฟอส อายุ 21 ปี หน้าองค์พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ม.6 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวนสามาถจับกุม “เสี่ยอ้วน” ได้ที่ จ.ปรีเวง ชายแดนประเทศกัมพูชา ขณะที่กำลังจะหลบหนีเข้าประเทศเวียดนาม
รายงานข่าว แจ้งว่า สำหรับปฏิบัติการจับกุมเสี่ยอ้วนครั้งนี้ เป็นความร่วมมือกันระหว่างกองทัพภาคที่ 1 , ตำรวจภูธร จ.สระแก้ว , ตม.อรัญประเทศ , ชุดสืบสวน จตช. ได้ประสานงานกับตำรวจกัมพูชา กรมทหารพรานที่ 13 สถานีตำรวจสำเภาลูน
สำหรับเส้นทางการหลบหนีของ “เสี่ยอ้วน” หลังก่อเหตุสั่งยิง “น้องสปายกับนายฟอส” ได้เดินทางมาที่ จ.สระแก้ว จากนั้นให้ “นายน้อย” เป็นผู้พาหลบหนีไปทางด่านข้ามแดนบ้านเขาดิน ต.คลองหาด อ.คลองหาด ก่อน “เสี่ยอ้วน” ได้ใช้วิธีกบดานนิ่งที่ฝั่งประเทศกัมพูชา โดยมีเงินติดตัวเพียง 3 แสนบาท โดยจุดที่ “เสี่ยอ้วน” ถูกจับอยู่ห่างจาก จ.สระแก้ว ไปประมาณ 600 กิโลเมตร
ส่วนนาทีที่ “เสี่ยอ้วน” ถูกจับ เสมือนเป็นการยอมจำนนเมื่อถึงทางตันหมดทางหนีแล้วจริงๆ โดยถูกรวบตัวได้ที่ จ.ปรีเวง ชายแดนประเทศกัมพูชา ขณะ “เสี่ยอ้วน” กำลังจะเตรียมเผ่นหลบหนีข้ามฝั่งไปยังประเทศเวียดนาม แต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน
ส่วนวิธีการคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย มี 2 ทางเลือก คือ ขึ้นเครื่องบินที่สนามบินโปเชนตง กรุงพนมเปญ หรือจะใช้รถยนต์ขับผ่านชายแดนปอยเปต อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งคาดว่าทางกัมพูชาน่าจะคุมตัว “เสี่ยอ้วน” มาส่งให้ทางการไทยด้วยวิธีใช้รถยนต์มากกว่า
โดยเมื่อช่วงตอนสายวันนี้ 16 ส.ค. ทางการกัมพูชาจะคุมตัว “เสี่ยอ้วน” มาสั่งให้ หลังจากที่ทำประวัติการจับกุมเสร็จสิ้นซึ่ง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ ได้รีบเดินทางไปที่ สภ.คลองลึก เพื่อวางแผนประสานการรับตัว “เสี่ยอ้วน” ข้ามกลับมาดำเนินคดีที่ฝั่งไทย
ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาสามารถติดตามจับกุมเสี่ยอ้วนได้แล้ว และกล่าวว่า อย่างที่เคยบอกก่อนหน้านี้คือ เสี่ยอ้วน มีสองทางให้เลือก คือ ทางตายกับทางตัน ซึ่งวันศุกร์ที่ 17 ส.ค. เวลาประมาณบ่ายโมง จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ