หมอวรงค์ ชำแหละ 3 ข้อคว่ำ นโยบายแจกเงิน ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ไปไม่รอด! ถึง ‘เพื่อไทย’ เลิกใช้มวลชนออกมาเรียกร้อง หยันเป็นลูกไม้ตื้นๆ
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก วรงค์ เดชกิจวิกรม – Warong Dechgitvigrom พูดถึงประเด็น เงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีการถกเถียงกันถึงทุกวันนี้ โดยระบุข้อความ ว่า “สัญญาณว่าเงินดิจิทัลไปไม่รอด”
สัญญาณว่าเงินดิจิทัลไปไม่รอด
ภาพที่มวลชนใส่เสื้อยืดขาว สกรีนแดง ข้อความเรียกร้องเงินดิจิทัล 10,000บาท นี่คือสัญญาณบ่งบอกว่า โครงการนี้กำลังไปไม่รอด ความจริงแล้ว ในเมื่อท่านเป็นรัฐบาล และมีเสียงในสภาถึง320เสียง จะไปกลัวอะไร ว่าโครงการเงินดิจิทัลจะไปต่อไม่ได้ สิ่งที่จะคว่ำนโยบายนี้ได้คือ
1.การแจกเงินดิจิทัล ไม่ตอบโจทย์ประชาชน เพราะประชาชนต้องการเงินสด(เงินชั้นหนึ่ง) แต่ท่านแจกเป็นเงินชั้นสอง(แต่เรียกให้เท่ห์ว่าเงินดิจิทัล)
ไม่ตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้ารายย่อย เพราะแม้ขายได้ก็ขึ้นเงินไม่ได้ หรือถ้าขึ้นเงินได้ ต้องรอนานถึงหกเดือนถึงขึ้นเป็นเงินสด แบบนี้พ่อค้าแม่ค้ารายย่อยลำบาก
เท่ากับว่าท่านกำลังช่วยนายทุนใหญ่ แต่เอาประชาชนคนจนมาอ้าง ไม่ต่างจากโครงการจำนำข้าว ที่ต้องการผูกขาดการค้าขาวและโกง แต่เอาชาวนามาบังหน้า
2.ขัดหลักกฏหมาย ที่กำลังถกเถียงเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนจากวิกฤตเศรษฐกิจ รวมทั้งพรบ.เงินตรา ที่ท่านจะกู้เงินชั้นหนึ่ง(เงินสด) แต่มาแจกเป็นเงินชั้นสอง(เงินดิจิทัล) ซึ่งมีความเสี่ยงสูงมากที่จะถูกศาลรัฐธรรมนูญตีตก หรืออาจจะตกตั้งแต่ชั้นกฤษฎีกา
3.ปัญหาทางเทคโนโลยี ในขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีการทดลองใช้เงินดิจิทัล(CBDC)และศึกษากับใช้ในรายย่อยมานับปีแล้ว มีบทสรุปว่า ไม่นำมาใช้วงกว้าง เพราะอาจมีความเสี่ยง แล้วรัฐบาลเพิ่งจะมา มีประสบการณ์ทดสอบหรือยัง และจะใช้ทันที50ล้านคน มันจึงเป็นไปไม่ได้
ดังนั้นการที่มีมวลชน ออกมาเรียกร้อง ต้องการเงินดิจิทัล จึงเป็นลูกไม้ตื้นๆของพรรคเพื่อไทย เพื่อเล่นละครตบตาประชาชน เพราะรู้ว่า โครงการนี้ใกล้ถึงจุดจบและไปไม่รอดแน่ๆ
