“พาณิชย์” เผยตัวเลขส่งออกเดือนก.พ.ขยายตัว 5.91% แต่หากหักการส่งออก “อาวุธ-น้ำมัน-ทอง” จะติดลบ 4.9% เหตุการค้าโลกชะลอตัวจากผลกระทบจากสงครามการค้า
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนก.พ.2562 ว่า การส่งออกในเดือนก.พ. มีมูลค่า 21,553 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 5.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่หากหักการส่งออกน้ำมัน ทองคำ และอาวุธ พบว่าการส่งออกที่แท้จริงจะติดลบ 4.9% ซึ่งเป็นผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐและจีน
ส่วนการนำเข้าในเดือนก.พ.มีมูลค่า 17,519 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 10.03% เนื่องจากการนำเข้าทองคำลดลง แต่การนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบยังดีอยู่ ซึ่งยังไม่น่าเป็นห่วงอะไร ขณะที่ในเดือนก.พ.ไทยยังเกินดุลการค้า 4,034 ล้านเหรียญสหรัฐ
“เมื่อเดือนที่แล้วมีตัวเลขการนำเข้าอาวุธเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น การส่งออกในเดือนนี้จึงมีปัจจัยเรื่องอาวุธเข้าเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก แต่หากหักอาวุธ น้ำมันและทองคำออกไป การส่งออกจะติดลบอยู่ ซึ่งเป็นไปตามเทรนด์ของประเทศเกิดใหม่ ที่การส่งออกชะลอตัวลง เนื่องจากการค้าขายโลกแผ่วลงจากผลกระทบสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน”น.ส.พิมพ์ชนกกล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูรายละเอียดในแง่รายสินค้า และการส่งออกเป็นรายประเทศแล้ว การส่งออกไทยก็ยังมีปัจจัยที่เป็นเชิงบวกอยู่ โดยการส่งออกสินค้าไทยไปจีนเดือนก.พ.ติดลบน้อยลง จากเดือนก่อนที่ติดลบ 16% แต่เดือนนี้ติดลบ 1.5% สินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ติดลบน้อยลง และสินค้าตัวอื่นๆขยายตัวได้ดี เช่น อาหาร ไก่ ผลไม้แช่เย็น แช่แข็ง และเครื่องสำอาง ขณะที่การส่งออกสินค้าไปสหรัฐพุ่งขึ้น 51% แต่หากหักอาวุธก็ยังบวก 5%
ส่วนตลาดที่น่ากังวลยังเป็นตลาดสหภาพยุโรป โดยสินค้าส่งออกไปสหภาพยุโรปติดลบหลายตัว ทำให้ 2 เดือนแรกส่งออกไทยไปยุโรปติดลบ 8%
น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวว่า บรรยากาศสงครามการค้าสหรัฐและจีนที่มีแนวโน้มดีขึ้น โดยขณะนี้ทั้ง 2 ประเทศพยายามหาข้อตกลงเพื่อยุติสงครามการค้าให้ได้ภายในเดือนเม.ย.-พ.ค.นี้ หากได้ข้อยุติ จะทำให้การส่งออกของไทยและประเทศต่างๆทั่วโลกปรับตัวดีขึ้น ขณะเดียวกัน การที่ไทยได้รับการยกระดับในเรื่องการเกี่ยวกับคุ้มครองแรงงานให้ดีขึ้น และข่าวดีเรื่อง IUU ส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้ากลุ่มอาหารและสินค้ากลุ่มประมงของไทย
สำหรับปัจจัยเสี่ยงการส่งออกไทย น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวว่า ยังคงเป็นเรื่องค่าเงินบาทที่ยังต้องติดตามกันต่อไป
น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวว่า ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.พ.) การส่งออกขยายตัว 0.16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้าขยายตัว 2% ขณะที่ไทยเกินดุลการค้า 2 ล้านเหรียญสหรัฐ และในสัปดาห์หน้า น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ ในฐานะรักษาการรมว.พาณิชย์ จะพิจารณาเป้าหมายการส่งออกในปีนี้อีกครั้ง ซึ่งเดิมคาดว่าจะขยายตัว 8% ก่อนนำไปหารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี