ราชาไม้หอม! “พีระพันธุ์” ผู้เชี่ยวชาญด้านไม้กฤษณา และเจ้าของสิทธิบัตรไม้กฤษณารายแรกของโลก ยื่นหนังสือแสดงตนพร้อมหลักฐานการได้มา และถือครองที่ถูกต้องในชิ้นส่วนไม้กฤษณา และชิ้นไม้อื่นๆ
นายพีระพันธุ์ วิจิตรพันธุ์ นักวิจัยอิสระ ผู้เชี่ยวชาญด้านไม้กฤษณา ซึ่งเป็นเจ้าของสิทธิบัตรไม้กฤษณารายแรกของโลก และเจ้าของข้อมูลความลับทางการค้า 150 ฉบับของไม้กฤษณา โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.กฤษดา กฤตเมธานนท์ ทนายความส่วนตัว เข้ายื่นหนังสือให้ นางสาว กมลชญา ประเสริฐสิน นายอำเภอแปลงยาว เพื่อแสดงตน พร้อมหลักฐานการได้มา และถือครองที่ถูกต้องในชิ้นส่วนไม้กฤษณา และชิ้นไม้อื่นๆ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกับทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้อายัดไว้จากการตรวจตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 2 ตู้ ภายในโรงงานของบริษัท สยามไบโอเทคและอุตสาหกรรมเภสัช จำกัด เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
โดยนายพีระพันธุ์ เปิดเผยว่า ตนมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของชิ้นส่วนไม้ที่ถูกอายัด และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทดังกล่าว จำนวน 225,000 หุ้น จากจำนวนหุ้นทั้งหมด 300,000 หุ้น ซึ่งชิ้นไม้ที่ถูอายัดไว้นั้นตนเองซื้อมาถูกต้องตามกฎหมายจากเกษตรกรที่ปลูกต้นกฤษณาในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ที่ตนไปส่งเสริมไว้โดยการเอาเทคโนโลยีตามสิทธิบัตรไปกระตุ้นตามกรรมวิธีภายใต้ความลับทางการค้าของตน เพื่อเพิ่มคุณภาพ และสร้างมูลค่าให้แก่ไม้กฤษณา โดยเกษตรผู้ปลูกไม้กฤษณาได้จำหน่ายให้ตนนำไปเป็นวัตถุดิบ เพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์จากไม้กฤษณานำไปจำหน่ายทั้งใน และต่างประเทศ ซึ่งสร้างรายได้แบบยั่งยืนให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกไม้กฤษณาทั่วประเทศ
ในเนื้อหาหนังสือดังกล่าว นายพีระพันธุ์ ได้ขอให้นายอำเภอแปลงยาวตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า การทำหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ โดยมีนายปิติ อ่อนตระกูล ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้จัดการโรงงานนั้น ว่ามีเจตนาพิเศษที่จะต้องการให้ตนได้รับความเสียหายในทางทำมาหาได้ และ เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยอาศัยหน่วยงานราชการที่มีอำนาจหน้าที่เป็นเครื่องมือในการทำลายความน่าเชื่อถือ หรือกลั่นแกล้งให้ต้องได้รับโทษทางอาญา อีกทั้งให้ตรวจสอบการเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ทั้งหมดว่าเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย และมีหมายค้นจากศาลหรือไม่ รวมถึงขอให้นายอำเภอแปลงยาวนำผู้ร้องเรียนเข้าสำรวจทรัพย์ที่เหลือในตู้คอนเทนเนอร์ว่าอยู่ครบถ้วนหรือไม่ เพราะมีผู้ไม่เกี่ยวข้องหลายคนเข้าไปรื้อค้นหลายครั้ง ซึ่งในเรื่องนี้ตนจะส่งสำเนาถึง พล.อ.ประยุทธุ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า คสช.เพื่อตรวจสอบอีกด้วย
ทั้งนี้ ทางนางสาว กมลชญา ประเสริฐสิน ได้มอบหมายให้นายประคอง ก๊วยเจริญ ปลัดอาวุโส มาเป็นผู้รับหนังสือแทน และได้แจ้งว่าจะเร่งดำเนินการตรวจสอบเป็นการเร่งด่วน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกๆ ฝ่าย เบื้องต้นในวันดังกล่าว ตนเป็นเพียงผู้อำนวยการเหตุการณ์ตามหน้าที่ แต่ไม่ได้เป็นผู้เข้าตรวจค้น และอายัดชิ้นส่วนไม้ดังกล่าว และยังเป็นคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างเอกชนผู้มีส่วนได้เสียทั้ง 2 ฝ่ายเท่านั้น ซึ่งหากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ผู้ยื่นหนังสือทราบต่อไป
