เมียช็อก! ผัวโดนอริยิงดับต่อหน้า เผยความในใจแค้นมา 10 ปี

ล่าสุดวันที่ 8 พ.ค. 2567 เมื่อเวลา 01.30 น. ร.ต.ท.อิทธิพล จิโรปการ พนักงานสอบสวน สภ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่ริมถนนสายมะขามล้ม-สังฆจาย หมู่ 4 ต.มะขามล้ม จึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบพร้อมลงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.มงคล วิลัยเกษม ผกก.สภ.บางปลาม้า กำลังฝ่ายสืบสวนสายตรวจรถยนต์ชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรีและสมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวง 

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าร้านขายของชำ มีโต๊ะหินอ่อนตั้งอยู่ ข้างโต๊ะพบร่างคนถูกยิงคือ นายเบนซ์ อายุ 33 ปี เสียชีวิตด้วยปืนขนาด 11 มม. เข้าที่ศีรษะ 1 นัด อาการสาหัสนอนจมกองเลือด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบช่วยทำ ปั๊มหัวใจช่วยชีวิตก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาลบางปลาม้า ก่อนเสียชีวิตเพราะบาทแผลไม่ไหว

ที่เกิดเหตุพบกองเลือดจำนวนมาก อีกทั้งยังขวดเบียร์และขวดโซดา เจ้าหน้าที่ยังเจออาวุธที่ใช้ก่อเหตุคือ ปืนขนาด 11 มม. 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 11 มม. 7 นัด และปลอกกระสุนอีก 1 ปลอกตกอยู่ จึงได้รีบเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกันนี้ก็ได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจเก็บหลักฐานต่าง ๆ ในที่เกิดเหตุไว้ประกอบสำนวนคดี 

• ใจเด็ด! ยิงปลัดกลางสนามบอล ดับ 2 เจ็บ2 ก่อนหลบหนี
• แม่น้ำตาตก ลูกชายคนเล็กยิงพี่ดับคาบ้าน พบว่าแย่งที่ดิน

จากการสอบสวนนายแบงค์ อายุ 33 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นคนแย่งปืนเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุพวกตนประมาณ 5 คน ได้ตั้งวงดื่มกันอยู่ที่หน้าร้านขายของชำ ระหว่างนั้นมือปืนคือนายธรรมพร (สงวนนามสกุล) หรือ ตาม มะขามล้ม อายุ 34 ปีซึ่งนั่งดื่มกับพวกอยู่อีกฝั่งถนน จากนั้นนายธรรมพรได้เดินข้ามมาหาพวกตนที่โต๊ะพร้อมกระป๋องเบียร์ มาชนแก้วกับนายเบนซ์ จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกไป ไม่นานนายธรรมพรก็ขี่จักรยานยนต์ย้อนกลับมาใหม่แล้วเดินเข้ามาจ่อยิง นายเบนซ์ ทันที 1 นัด

ผู้ก่อเหตุได้หันหัวปากกระบอกปืนมาหาตนพร้อมถามว่ามีปัญหาอะไรไหม ตนเห็นผู้ก่อเหตุมีปืนจึงไม่ตอบโต้จนกระทั่งได้จังหวะจึงเข้าแย่งปืนผู้ก่อเหตุเอาไว้ หลังถูกแย่งปืนผู้ก่อเหตุเห็นท่าไม่ดีได้วิ่งหนีหลบหนีไป น้องที่นั่งดื่มด้วยกันวิ่งตามแต่ไม่ทัน 

ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุคาดว่ามาจากเรื่องแค้นส่วนตัว เนื่องจากเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตเคยมีปัญหาขัดแย้งเกี่ยวกับธุรกิจมืด กระทั่งมาเจอกันครั้งแรก ตนคิดว่าทั้งคู่ปรับความเข้าใจกัน และไม่มีอะไรแล้ว สุดท้ายมาก่อเหตุขึ้น