โหด! เพื่อนพ่อคลั่งยา ทำร้ายหลานวัย 3 เดือน เจ็บสาหัส อ้างเด็กร้องดัง

(30 พ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากนางสุชาวดี หรือนางอ้อย อายุ 54 ปี ชาว อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ยายของน้องกัปตัน เด็กทารกเพศชายอายุ 3 เดือน ว่าขอให้ช่วยตรวจสอบและติดตามคดีที่นายลิขิต หรือนายเบิร์ด อายุ 33 ปี เพื่อนของลูกเขย ทำร้ายร่างกายน้องกัปตัวจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้มีชีวิตอยู่ด้วยเครื่องช่วยหายใจเท่านั้น โดยกังวลว่าตำรวจที่จับตัวนายลิขิตไปนั้นอาจจะแจ้งแค่ข้อหาเสพยาเสพติดเท่านั้น

นางอ้อยเล่าว่าลูกสาวของตนคือนางธิติมากร อายุ 29 อาศัยอยู่กับนายมนตรี อายุ 40 ปี ลูกเขย และน้องกัปตัน ที่บ้านในพื้นที่ ชุมชนสว่างโนนทอง ต.กุดน้ำใส อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น โดยก่อนหน้านี้อาศัยกันอยู่ 3 คน พ่อแม่ลูก ก่อนที่จะมีนายเบิร์ด เพื่อนของนายมนตรีมาอาศัยอยู่ด้วย โดยนายมนตรีได้ปลูกกระต๊อบให้อยู่ภายในบริเวณบ้านเดียวกัน

ตัวนายเบิร์ดไม่มีงานทำ ทุกวันมักจะเสพยาบ้า โดยเมื่อนางอ้อยพาผู้สื่อข่าวไปดูที่กระต๊อบที่นายเบิร์ดเคยอาศัยอยู่ ก็พบอุปกรณ์เสพยาตกอยู่เกลื่อน ส่วนตัวนายมนตรีนั้นก็ป่วยเป็นโรคไต เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาไม่นาน

วันที่เกิดเหตุคือวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา ช่วงเช้าลูกสาวได้ออกจากบ้านไปซื้อกับข้าวและซื้อนมให้ลูกที่ร้านค้าในหมู่บ้าน พร้อมทั้งฝากลูกเอาไว้ให้พ่อของเด็กช่วยดูให้ ส่วนนายเบิร์ดนอนอยู่ที่กระต๊อบ แต่พอลูกสาวกลับมาบ้าน พบว่าน้องกัปตันถูกอุ้มไปนอนที่เปลข้างกระต๊อบของนายเบิร์ด มีผ้าขาวม้าสีแดงห่อตัวอยู่ เมื่อถามนายเบิร์ดบอกว่าเด็กร้อง เลยพาออกมานอนที่นี่

ต่อมาน้องกัปตันมีอาการร้องไห้ไม่หยุด แม่ของเด็กเห็นรอยช้ำตามตัวลูก วันที่ 27 พ.ค. จึงอุ้มลูกไปที่บ้านของพี่สะใภ้ เมื่อตรวจดูตามร่างกายก็พบกับรอยฟกช้ำ และมีรอยกัดที่หน้าอกกับตามลำตัวหลายแห่ง มีรอยเขียวช้ำทั่วทั้งใบหน้า และปูดบวม พอสอบถามกับนายมนตรีจึงทราบว่า ขณะที่นางธิติมากรออกไปซื้อของ น้องกัปตันร้องไห้ นายเบิร์ดจึงไปอุ้มน้องกัปตันออกมา แล้วก็มีเสียงดุด่าดังลั่นบ้าน

นายมนตรีจึงออกจากห้องนอนมาหานายเบิร์ด ก็เห็นนายเบิร์ดจับสองขาของลูกชาย เอาศีรษะหย่อนลงไปในถังน้ำสีดำ ที่ตั้งรองรับน้ำฝนที่ชายคาหน้าบ้าน จึงตะโกนบอกไปว่า อย่าทำน้องกัปตัน นายเบิร์ดจึงเอาน้องกัปตันขึ้นจากถังน้ำ ใช้ผ้าขาวม้ามาห่อร่างน้องกัปตันไปวางไว้ในเปล ซึ่งขณะนั้นน้องกัปตันไม่มีเสียงร้องแล้ว

นางอ้อย กล่าวอีกว่า เมื่อตนรู้ความจริงถึงอาการบาดเจ็บของหลานจากลูกสาวและลูกเขย จึงเก็บกลั้นความเจ็บปวดไว้ในใจ เดินทางมาที่บ้านลูกเขยก็เห็นนายเบิร์ดเสพยาบ้าในกระต๊อบ นายเบิร์ดยังถามถึงน้องกัปตัน จึงตอบไปว่า สบายดี อาการปลอดภัยแล้ว นายเบิร์ดก็ยิ้ม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

ตนยังได้ถามนายเบิร์ดว่า ได้โยนหลานตัวเองลงในถังน้ำสีดำนี้หรือไม่ นายเบิร์ดพูดหน้าตาเฉยว่าทำจริงแต่แค่หยอกเล่น นางอ้อยพยายามระงับความโกรธความแค้นเอาไว้ เพื่อไม่ให้นายเบิร์ดรู้ตัวว่าเด็กอาการสาหัส เพราะกลัวจะไหวตัวหลบหนีไป จากนั้นจึงปรึกษากันอย่างลับๆ ในครอบครัว และแจ้งตำรวจมาจับกุมนายเบิร์ดที่บ้าน

เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวนายเบิร์ดได้ และค้นของกลางเจอยาบ้า 6 เม็ด จึงคุมตัวไปสอบสวนที่โรงพัก  แต่ครอบครัวยังไม่สบายใจ เพราะเกรงว่านายเบิร์ดจะถูกปล่อยตัวมา เนื่องจากนายเบิร์ดบอกว่าตัวเองเป็นสายให้ตำรวจ แต่ส่วนตัวเชื่อว่านายเบิร์ดเสพยาบ้าจนคลั่งและหลอนทำร้ายหลานชาย

อาการของหลานตอนนี้โคม่า อยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ตนเองได้แต่ภาวนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้หลานได้รับความเป็นธรรม ถ้ามีปาฏิหาริย์ขอให้หลานกลับมาครบ 32 แต่ถ้าไม่มีโอกาสเหล่านั้นก็ขอให้น้องไปอย่างสงบโดยเร็ว เพราะไม่อยากให้ทรมานไปมากกว่านี้

ทางด้าน พ.ต.อ.ชุมพล บัวชุม ผกก.สภ.น้ำพอง  กล่าวถึงกรณีการทำร้ายร่างกายเด็กชายวัย 3 เดือนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้รับแจ้งเหตุแต่แรก  แต่รับแจ้งเหตุเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 29 พ.ค.2567 หลังรับแจ้งจึงลงพื้นที่ไปที่บ้านที่เกิดเหตุ ก็พบบิดามารดาของเด็ก รวมถึงพบนายเบิร์ดด้วย จึงควบคุมตัวนายเบิร์ดไว้พร้อมยาบ้า 6 เม็ด  แจ้งข้อหา มียาเสพติดปะเภท 1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ โดยผิดกฏหมาย และข้อหา ทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส  เป็นการแจ้งข้อกล่าวหาในเบื้องต้น  ซึ่งทราบว่า เด็กชาย 3 เดือนที่บาดเจ็บนั้น ยังอยู่ด้วยเครื่องช่วยหายใจที่ รพ.ศรีนครินทร์  หากน้องเสียชีวิต ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่ม จึงขอยืนยันว่า กรณีของนายเบิร์ดนั้น ตำรวจยืนยันให้ความเป็นธรรมและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดตามขั้นตอนต่อไป