16 ต.ค. 63 นักวิจัยชาวออสเตรเลียเผยผลการศึกษาของ โรคจากแมว ซึ่งพบว่า แต่ละปีออสเตรเลียมีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนหลังติดเชื้อจากโรคที่มีแมวเป็นพาหะ รวมถึงได้ประเมินถึงผลกระทบของโรคต่อเศรษฐกิจ
การศึกษาข้างต้นนำโดยซาราห์ เล็กจ์ จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียและมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ระบุว่าโรคเหล่านี้เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 ราย และมีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 11,000 รายต่อปี คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 6 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.32 แสนล้านบาท) ต่อปี
เล็กจ์กล่าวว่าค่าใช้จ่ายที่อ้างอิงในการศึกษานั้น มีทั้งค่ารักษาพยาบาล การสูญเสียรายได้ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคที่มีแมวเป็นพาหะ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กระทั่งแมวเริ่มเข้ามาในออสเตรเลีย
“โรคท็อกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis) โรคพยาธิตัวกลม (cat roundworm) และโรคแมวข่วน (cat-scratch disease) เข้ามาสู่ออสเตรเลียพร้อมกับแมวในปี 1788 เชื้อโรคที่ทำให้เกิดโรคเหล่านี้ต้องพึ่งพาแมวตลอดช่วงวงจรชีวิตของพวกมัน ดังนั้นถ้าไม่มีแมว โรคเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้นที่นี่” เล็กจ์กล่าว
น่ารักทั้งครู ทั้งนักเรียน ปีนแทงค์น้ำ ช่วยชีวิตแมว ทำเงื่อนผูกไม้ตามที่เรียนมาช่วยจนสำเร็จ
ในบรรดาสามโรคนี้ โรคท็อกโซพลาสโมซิสซึ่งเกิดจากปรสิตเซลล์เดียวที่ชื่อว่า ท็อกโซพลาสมา กอนดีไอ (Toxoplasma gondii) สามารถสร้างความเสียหายต่อสุขภาพของประชาชนในออสเตรเลียมากที่สุด และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตต่อผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมถึงทารกในครรภ์ โดยผลกระทบที่ร้ายแรงที่สุดของปรสิตชนิดดังกล่าว มาจากผลกระทบระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นต่อพฤติกรรมและสุขภาพจิต
“การติดเชื้อท็อกโซพลาสมา กอนดีไออาจเพิ่มพฤติกรรมเสี่ยงและลดเวลาของปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกาย (Reaction Time) ซึ่งนี่อาจอธิบายได้ว่าเหตุใดผู้ที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ จึงมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อโรคนี้”
“หากไม่มีเชื้อปรสิตชนิดนี้ ในแต่ละปีเราอาจลดจำนวนผู้เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ในออสเตรเลียได้ประมาณ 200 ราย และผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล 6,500 ราย”
“การติดเชื้อท็อกโซพลาสมา กอนดีไอ ยังเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงของความผิดปกติทางจิตหลายๆ กรณี เราอาจลดจำนวนผู้ป่วยโรคจิตเภทได้ถึง 1 ใน 5 หรือ 21% และ 1 ใน 10 ของการฆ่าตัวตายและการพยายามฆ่าตัวตายได้ หากเรากำจัดการติดเชื้อนี้สำเร็จ”
โคตรแออัด! แมวขังกรงนรก ตากแดดทั้งเป็น “ถ้าป่วยก็ปล่อยตาย”
เพื่อลดอัตราการติดเชื้อในมนุษย์ นักวิจัยแนะนำให้เจ้าของเลี้ยงแมวอยู่ในบ้านตลอดเวลา และล้างมือให้สะอาดหลังจากจัดการกล่องขับถ่ายแมวหรือทำสวน
อีกทั้ง ดร.จอห์น รีด ผู้เขียนงานวิจัยร่วมจากมหาวิทยาลัยแอดิเลดในออสเตรเลียยังแนะว่าควรลดจำนวนประชากรแมวจรจัดในบริเวณที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก
“แมวจรจัดที่อยู่รอบเมืองเป็นแหล่งกักเก็บโรค เราสามารถควบคุมประชากรแมวจรจัดให้ลดลงได้ โดยการไม่ให้อาหารแมวจรจัดหรือไม่ปล่อยให้พวกมันเข้าไปยุ่งกับถังขยะ ทำหมันแมวที่เลี้ยงไว้ภายใน 5 เดือน และสนับสนุนแผนริเริ่มของรัฐบาลท้องถิ่นในการจัดการประชากรแมว” รีดกล่าว